วานนี้ (9 เมษายน) ผศ.ดร.สานิต ศิริวิศิษฐ์กุล หัวหน้าแผนกวิจัย สำนักวิจัย มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดเผยว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง การอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงของรัฐบาล-ฝ่ายค้านในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 5-7 เมษายน 2567 จากจำนวน 2,100 ตัวอย่าง โดยเป็นประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยการสำรวจในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 971 ตัวอย่าง และออนไลน์ 1,129 ตัวอย่าง จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
ทั้งนี้ พบว่าความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำเสนออยู่ในระดับน่าเชื่อถือมาก ร้อยละ 22.4 ค่อนข้างน่าเชื่อถือ ร้อยละ 28.9 ค่อนข้างไม่น่าเชื่อถือ ร้อยละ 21.2 และไม่น่าเชื่อถือเลย ร้อยละ 12.3 ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลตอบว่า น่าเชื่อถือมาก ร้อยละ 21.6 ค่อนข้างน่าเชื่อถือ ร้อยละ 17.3 ค่อนข้างไม่น่าเชื่อถือ ร้อยละ 33.5 และไม่น่าเชื่อถือเลย ร้อยละ 21.0
สำหรับประเด็นความชัดเจนในการอภิปรายที่ฝ่ายค้านซักถามข้อเท็จจริงในการบริหารประเทศของรัฐบาล เห็นว่า ชัดเจนมาก ร้อยละ 13.7 ค่อนข้างชัดเจน ร้อยละ 38.4 ค่อนข้างไม่ชัดเจน ร้อยละ 19.8 และไม่ชัดเจนเลย ร้อยละ 14.6
ในขณะที่ความชัดเจนในการอภิปรายที่ฝ่ายรัฐบาลซักถามข้อเท็จจริงในการบริหารประเทศ เห็นว่า ชัดเจนมาก ร้อยละ 17.8 ค่อนข้างชัดเจน ร้อยละ 32.5 ค่อนข้างไม่ชัดเจน ร้อยละ 34.6 และไม่ชัดเจนเลย ร้อยละ 10.4
ประเด็นความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาล ซึ่งหลังจากผ่านการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง พบว่า เชื่อมั่นมากกว่าเดิม ร้อยละ 20.2 เชื่อมั่นเหมือนเดิม ร้อยละ 18.6 เชื่อมั่นลดลง ร้อยละ 35.6 และไม่เชื่อมั่นเลย ร้อยละ 20.9
ส่วนประเด็นสิ่งที่อยากให้มีการปรับปรุงในการอภิปรายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 32 ส่วนใหญ่เห็นว่า เรื่องพฤติกรรมการแสดงออก ร้อยละ 50.8 การแสดงข้อมูลหลักฐานที่ไม่ชัดเจน ร้อยละ 45.1 เนื้อหาการอภิปรายไม่ตรงประเด็น ร้อยละ 43.9 ความรุนแรงของการใช้ภาษา ร้อยละ 42.5 การอภิปรายที่กระชับ ไม่วกวน ร้อยละ 38.0 และอื่นๆ เช่น การยียวน บุคลิกภาพ ร้อยละ 1.6
ปิดท้ายด้วยประเด็นนโยบายที่คิดว่ารัฐบาลควรเร่งดำเนินการโดยด่วนภายหลังจากการอภิปรายครั้งนี้ ส่วนใหญ่เห็นว่า สิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนคือ แก้ปัญหายาเสพติด ร้อยละ 61.6 แก้ปัญหาหนี้สิน ร้อยละ 52.4 สวัสดิการผู้สูงอายุ ร้อยละ 50.9 เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท ร้อยละ 46.7 แก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ ร้อยละ 33.8 และอื่นๆ เช่น แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ การทุจริต ร้อยละ 2.9