ผลงานวิจัยเผยว่าคู่แต่งงานญี่ปุ่นจำนวนมากประสบปัญหาไร้เซ็กซ์ (Sexless) ซึ่งหมายถึงการไม่มีกิจกรรมทางเพศเลย หรือมีน้อยมาก แม้แต่กลุ่มที่ต้องการมีลูกก็ตาม ซึ่งบ่งชี้ถึงปัญหาท้าทายในการแก้ไขภาวะอัตราการเกิดลดลงในญี่ปุ่น
ศาสตราจารย์ Yoshie Moriki จาก International Christian University และนักวิจัยคนอื่นๆ ได้รวบรวมรายงานทางวิชาการในปี 2022 โดยอิงจากผลการสำรวจทั่วประเทศในปี 2010 ซึ่งประกอบด้วยชายและหญิง 9,000 คน อายุระหว่าง 20-59 ปี เพื่อวิเคราะห์กิจกรรมทางเพศระหว่างคู่สมรส
งานวิจัยพบว่า 45% ของคู่แต่งงานชาวญี่ปุ่นมีเซ็กซ์น้อยกว่าเดือนละครั้ง แม้ในกลุ่มที่อยากมีลูก ตัวเลขของคู่ ‘ไร้เซ็กซ์’ ก็สูง โดยอยู่ที่ 22%, 37%, และ 50% สำหรับคู่วัย 20, 30, และ 40 ปี ตามลำดับ และสูงขึ้นไปอีกในกลุ่มที่ต้องการลูกคนที่ 2
ปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหานี้เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมการเลี้ยงลูกของญี่ปุ่นที่เน้นการนอนร่วมกันเป็นครอบครัว สังคมที่กดดันให้คนทำงานหนักจนไม่มีเวลาและเรี่ยวแรงสำหรับกิจกรรมทางเพศ และสภาพบ้านที่คับแคบ โดยเฉพาะสำหรับคู่ที่มีลูกแล้ว
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมีชั่วโมงการทำงานสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และผู้หญิงมักรับภาระงานบ้านที่ไม่จ่ายค่าตอบแทนเพิ่มด้วย
ไม่เพียงแค่เรื่องของการมีเซ็กซ์เท่านั้น แต่กรณีที่คู่รักมีเพศสัมพันธ์แล้วไม่นำไปสู่การมีบุตรก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากปัญหาฝ่ายชายไม่สามารถหลั่งในช่องคลอด ซึ่งอาจเกิดจากพฤติกรรมการช่วยตัวเองที่ไม่เหมาะสม หรือการขาดความรู้เรื่องเพศศึกษาที่ถูกต้อง
การขาดแคลนกิจกรรมทางเพศถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้อัตราการเกิดของญี่ปุ่นต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และเมื่อประกอบกับการที่คนญี่ปุ่นโดยรวม (รวมทั้งคนที่ไม่แต่งงาน) มีแนวโน้มหลีกเลี่ยงเซ็กซ์ ยิ่งทำให้อัตราการเกิดมีแนวโน้มลดลงหนักขึ้นไปอีก
ในทางตรงกันข้าม ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่มีอายุ 30 ปีที่ไม่เคยมีคู่นอนเลยมีเพียงประมาณ 1-2% เท่านั้น
อ้างอิง: