วันนี้ (25 มีนาคม) ที่ประชุมสมาชิกวุฒิสภาเปิดการอภิปรายทั่วไปเพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงแนวทางปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 โดยมี ศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 เป็นประธาน ซึ่งจะใช้เวลาในการอภิปรายประมาณ 11 ชั่วโมง
โดยเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ผู้เสนอญัตติ ระบุว่า การเสนอญัตตินี้เป็นเรื่องสำคัญที่อยากให้เป็นประโยชน์ในการบริหารประเทศของรัฐบาล โดยการยื่นอภิปรายดังกล่าวอาจถูกพูดว่าเป็นการซักฟอกรัฐบาล เป็นการล้มรัฐบาลและทำให้รัฐบาลเสียหาย สิ่งเหล่านี้เป็นความคิดที่ผิด เพราะในทางการเมืองไม่มีใครกล้าหรือยื่นขอญัตติอภิปราย เนื่องจากกลัวกระทบกับพวกตัวเองและผู้มีอำนาจ ซึ่งกว่าจะได้สมาชิกในการอภิปราย 99 คนไม่ใช่เรื่องง่าย จึงขอให้รัฐบาลมองว่าเป็นประโยชน์ในการทำงาน แต่กลับเป็นว่ารัฐบาลนำเวลาไปใช้ในสิ่งอื่นที่สำคัญน้อยกว่า
ไปเชียงใหม่จิบไวน์ ทั้งที่ฝุ่นเต็มเมือง
“ท่านเดินทางไปต่างประเทศหลายครั้ง ในช่วงเวลาที่ต้องบริหารประเทศ ท่านก็ยังเอาเวลาไปเชียงใหม่ ไปกินอาหาร ดื่มไวน์ ทั้งๆ ที่ฝุ่นเต็มเมืองเชียงใหม่ จริงๆ ผมยอมรับว่าเป็นสิทธิ์ของท่าน แต่ไม่รับฟังปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดิน ทำให้พรรคฝ่ายค้านออกไปแสดงบทบาทชิงตัดหน้าท่านลงไปตรวจดูไฟไหม้ป่า” เสรีกล่าว
เสรีระบุอีกว่า แม้ สว. จะมาจากการแต่งตั้ง แต่ก็เป็นผู้มีประสบการณ์ สว. ต้องการเห็นการบริหารประเทศที่มั่นคง มีเสถียรภาพ แต่ผ่านมา 6 เดือนยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม การรองบประมาณ งบประมาณยังไม่ออก กลายเป็นข้อแก้ตัว แต่การบริหารประเทศยังไม่หยุด
ขณะที่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ใช่ทำอย่างที่ท่านทำ ห้างได้ประโยชน์ คนทั่วไปได้หรือไม่ พร้อมแนะนำให้เปิดตลาดชุมชนทุกวันเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย ตนไม่ได้ดูถูกเซลส์แมนน่ารังเกียจ แต่ท่านนายกฯ ต้องไปแบบซีอีโอ แบบผู้บริหารระดับสูง ส่วนเซลส์แมนต้องให้ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ดำเนินการ เพราะมีทูตพาณิชย์อยู่ภายใต้การดูแล
ผลงานเด่น ช่วยคนทำผิดแล้วไม่ต้องรับโทษ
เสรีกล่าวอีกว่า เรื่องที่รัฐบาลมีความชัดเจน ทำแล้วโดดเด่น ทำแล้วประสบความสำเร็จ มีเพียงเรื่องเดียวคือเรื่องช่วยคนทำผิดแล้วไม่ต้องรับโทษ ให้หน่วยงานกรมราชทัณฑ์ออกระเบียบหลายฉบับ ช่วยคนไม่รับโทษ โดดเด่นจนถือเป็นผลงานของรัฐบาล เป็นผลงานของนายกฯ แต่กระบวนการยุติธรรมเสียหาย
“ใครๆ ไม่อยากติดคุก เราเข้าใจ แต่เราต้องใช้กระบวนการทางกฎหมายที่เป็นธรรมที่ถูกต้อง ผมฟังท่านนายกฯ พูดในเรื่องเหล่านี้ ท่านก็บอกว่าเป็นการทำตามกฎหมาย แต่กฎหมายที่ออกมาใช้เป็นกฎหมายที่เหมาะสมไหม เป็นธรรมไหม สามารถปฏิบัติให้ประชาชนโดยทั่วไปหรือเปล่า สิ่งที่นายกฯ ทำเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมภายในประเทศบ้านเมือง ผมภาวนาให้ท่านนายกฯ อยู่ครบ 4 ปี ไม่ใช่มีข่าวถูกเปลี่ยนอยู่ทุกวี่ทุกวัน ถูกเลื่อยขาเก้าอี้อยู่ทุกวัน” เสรีกล่าว
ไม่เคยน้อยใจ โดน สว. ซักฟอก
ด้าน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงโดยระบุว่า ยินดีที่มารับคำติชมของสมาชิกทุกท่าน ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ให้เกียรติฝ่ายนิติบัญญัติทั้งสองสภา ไม่เคยมีความคิดว่า 8-9 ปี ไม่เคยมีการอภิปรายแล้วทำไมรัฐบาลนี้ต้องมี เราทำตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ ไม่เคยน้อยใจ แล้วจะมาตอบทุกท่านให้กระจ่าง
เศรษฐาระบุว่า ในเรื่องของการเดินทางไปต่างประเทศหลายหน ในหลายครั้งที่เดินทางเป็นเรื่องของความจำเป็น เช่น การประชุมอาเซียน หรือขนบธรรมเนียมประเพณีที่ผู้นำใหม่ต้องไปเยือนประเทศเพื่อนบ้าน ตนตระหนักดีว่าใช้เวลาในการบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นประโยชน์สูงสุด และเข้าใจถึงข้อกังวล แต่เรามีเทคโนโลยีในการบริหารราชการ มีการติดต่อกับรัฐมนตรีและข้าราชการที่เกี่ยวข้องนำพาประเทศผ่านวิกฤตไปได้โดยไม่จำเป็นต้องมาเจอกันตัวต่อตัว
ยืนยันไม่จิบไวน์ เหตุไม่สบาย
“ท่านบอกไปเชียงใหม่ ผมเดินทางไปหลายหนเพื่อจัดการเรื่องฝุ่นซึ่งลดน้อยลงไป เปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมากับปีนี้ ส่วนที่ท่านบอกว่าดื่มไวน์ รับรองได้ผมไม่ได้ดื่มเพราะไม่สบาย” เศรษฐากล่าว
มั่นใจ 7 เดือน ผลงานคืบหน้าแม้ไร้งบ
ส่วนเรื่องงบประมาณไม่ใช่ข้อแก้ตัวหรือข้ออ้างในการบริหารและช่วยเหลือประชาชน แต่งบประมาณเป็นขีดจำกัดที่ทำให้ไม่สามารถผลักดันได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ เวลา 11.30 น. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการแถลงไทม์ไลน์ในการลงทุน สำหรับหนี้นอกระบบเห็นได้ชัดว่ามีความลังเลไม่เข้าสู่ระบบ จึงได้กำชับฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ลงพื้นที่ให้มาแจ้งและดูแลความปลอดภัย ยืนยันว่า 7 เดือนที่ผ่านมามีความคืบหน้า