ลิเวอร์พูลแสดงให้เห็นถึงการเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีการบริหารดีที่สุดแห่งหนึ่งด้วยการเตรียมความพร้อมของยุคสมัยที่จะไม่มี เจอร์เกน คล็อปป์ (Post-Klopp Era) เอาไว้อย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
เริ่มจากการไปดึงตัวอดีตผู้อำนวยการสโมสรคนเก่งอย่าง ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ ให้กลับมานั่งแท่นในตำแหน่งบริหารที่ใหญ่กว่าเดิม ขึ้นตรงกับ Fenway Sports Group เจ้าของสโมสร ซึ่งเตรียมที่จะขยายอาณาจักรในเกมลูกหนังด้วยการหาทีมลงทุนเพิ่มในอนาคต เพียงแต่งานหลักตอนนี้อยู่ที่การกำกับดูแลทีม ‘หงส์แดง’ ในทุกมิติก่อน
และล่าสุดมีการยืนยันว่า ได้แต่งตั้ง ริชาร์ด ฮิวจ์ส ขึ้นเป็นผู้อำนวยการสโมสรฝ่ายกีฬา หรือ Sporting Director คนใหม่อย่างเป็นทางการ โดยจะเริ่มต้นการทำงานหลังจบฤดูกาลนี้ และจะเป็นคนรับผิดชอบงานที่สุดท้าทายหลายอย่าง
ว่าแต่มีใครรู้สึกคุ้นๆ ชื่อของผู้อำนวยการคนนี้บ้างไหม?
ที่บอกว่าคุ้นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะจริงๆ แล้ว ริชาร์ด ฮิวจ์ส เคยเป็นนักเตะฝีเท้าดีของทีมพอร์ทสมัธในช่วงยุคปี 2000 ซึ่งเป็นยุคทองของทีม ‘ปอมปีย์’ ที่สร้างชื่อในพรีเมียร์ลีกเอาไว้ได้ดีทีเดียว
แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเองที่ฮิวจ์สได้รู้จักกับเอ็ดเวิร์ดส์ ซึ่งทำงานในถิ่นแฟรตตันพาร์กเหมือนกัน ในบทบาทของหัวหน้าแผนกวิเคราะห์ โดยที่ตัวเขาในขณะนั้นเป็นถึงกัปตันทีมพอร์ทสมัธด้วย
ข้อมูลของเอ็ดเวิร์ดส์เป็นสิ่งที่น่าทึ่งและนำสมัยมากในยุคสมัยนั้น ซึ่งฮิวจ์ส รวมถึงนักเตะที่เป็นแกนของสโมสรอย่าง เอ็ดดี ฮาว, แกรี โอนีล และ แมตต์ เทย์เลอร์ (สองคนแรกก้าวมาเป็นผู้จัดการทีมนิวคาสเซิลและวูล์ฟส์ตามลำดับ) ได้ศึกษาทั้งการเล่นของตัวเองและข้อมูลของคู่แข่ง รวมถึงทีมจากต่างประเทศ
จนถึงวันหนึ่งที่ต้องเลิกลาจากการเป็นนักฟุตบอล มีแต่คนคาดหวังว่ากัปตันพอร์ทสมัธจะเดินหน้าสู่เส้นทางการเป็นโค้ช
ปรากฏว่าเขาเลือกที่จะทำงานอยู่เบื้องหลังตามคำแนะนำของฮาวแทน ซึ่งในเวลาต่อมาได้ตามกันไปอยู่กับบอร์นมัธ อันเป็นสโมสรที่สร้างชื่อให้แก่ผู้จัดการทีมนิวคาสเซิลคนปัจจุบัน ที่สามารถเปลี่ยนแปลงทีมเล็กๆ ให้กลับมาขึ้นชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้อย่างมหัศจรรย์
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ‘หลังบ้าน’ แล้วฮิวจ์สเป็นคนดูแล ซึ่งก็ได้วิชาความรู้ส่วนหนึ่งมาจากเอ็ดเวิร์ดส์ที่ย้ายจากสเปอร์สมาอยู่กับลิเวอร์พูลในเวลาต่อมา และกลายเป็นคนช่วยวางรากฐานความสำเร็จของยักษ์หลับให้กลับมาตื่นอีกครั้งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
หนึ่งในความสามารถพิเศษของฮิวจ์สคือ สายตาที่แหลมคมที่ไม่ได้แพ้พี่ใหญ่อย่างเอ็ดเวิร์ดส์
นักเตะลิเวอร์พูลในปัจจุบันหลายเคยผ่านสายตาของเขามาแล้วทั้งนั้น ตั้งแต่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ฮัลล์), ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ (ฟูแลม), โจ โกเมซ (ชาร์ลตัน) จนถึง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (ครั้งอยู่กับเซลติก) และ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ กับ อลิสสัน เบ็คเกอร์ (โรมา)
แต่ไม่ว่าจะอำนาจทางการเงินหรือแรงดึงดูดแล้ว บอร์นมัธของฮิวจ์สไม่มีทางสู้ลิเวอร์พูลของเอ็ดเวิร์ดส์ได้
ชัยชนะไม่กี่ครั้งที่เขามีเหนือพี่ใหญ่คือ การชักชวน ลอยด์ เคลลี ให้ปฏิเสธการย้ายไปลิเวอร์พูล และเลือกอยู่กับบอร์นมัธแทนในปี 2019 ด้วยค่าตัว 13 ล้านปอนด์ ซึ่งทำเอาเอ็ดเวิร์ดส์ต่อสายไปแสดงความยินดีด้วย แม้จะหัวเสียนิดหน่อยที่โดนทำแสบก็ตาม
ดังนั้นพูดง่ายๆ คือ ฮิวจ์สคือร่างจำลองของเอ็ดเวิร์ดส์ และสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นยืนยาวระหว่างทั้งสองจะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากในการกำหนดทิศทางของลิเวอร์พูลในอนาคต
2 ปีที่ผ่านมาลิเวอร์พูลเหมือนเรือที่หางเสือทำงานได้ไม่เต็มที่ เพราะตั้งแต่เอ็ดเวิร์ดส์อำลาทีมไป จูเลียน วอร์ด ลูกมือที่ขึ้นมารับตำแหน่งแทน ก็อยู่ในตำแหน่งได้ไม่นาน ก่อนประกาศลาออกล่วงหน้าหลายเดือน ทำให้สโมสรต้องทำตามคำแนะนำของคล็อปป์ในการขอตัว ยอร์ก ชมัดท์เค อดีตผู้อำนวยการโวล์ฟสบวร์ก มาช่วยประคองไปก่อน โดยที่ขณะนั้นไม่มีใครรู้ว่านี่จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน
ดังนั้นการที่คล็อปป์ประกาศลาออกแบบไม่มีใครคาดคิด หมายถึงการที่ลิเวอร์พูลจะต้องเริ่มต้นยุคใหม่ที่เหมือนนับจาก 0 เลยทีเดียวในเชิงของโครงสร้าง แม้ว่าในทาง ‘มรดกลูกหนัง’ ที่คล็อปป์ทิ้งไว้ให้นั้นจะมีคุณค่ามากล้นแล้วก็ตาม
ฮิวจ์สจะเป็นคนที่ช่วยนำทางสโมสรไป โดยมีเอ็ดเวิร์ดส์คอยช่วยดูอยู่ห่างๆ อีกทีหนึ่ง
โดยงานใหญ่ที่ยากที่สุดของว่าที่ผู้อำนวยการแห่งแอนฟิลด์คนใหม่ในวัย 44 ปี ย่อมหนีไม่พ้นการหาตัวตายตัวแทนของคล็อปป์ ที่แม้ในมุมของแฟนบอลแล้ว เชื่อว่าเป็นไปแทบไม่ได้ที่จะหาคนที่ดีพอๆ กันมาทดแทนในเวลานี้ แต่ในมุมของสโมสรแล้ว พวกเขาต้องการต่อยอดความสำเร็จของ ‘Liverpool 2.0’ ที่มาได้ไกลเกินคาดในฤดูกาลนี้
ก่อนหน้านี้มีการเชื่อมโยงว่าเอเจนต์ของฮิวจ์สอย่าง อิญากิ อิบานเยซ เป็นเอเจนต์คนเดียวกับ ชาบี อลอนโซ กุนซือเนื้อหอมที่มาแรงที่สุดของไบเออร์ เลเวอร์คูเซน และเป็นเต็งหนึ่งทั้งในสายตาของเซียนและแฟนบอล ด้วยเชื่อว่าสไตล์และแนวทางน่าจะต่อยอดจากมรดกของคล็อปป์ได้
แต่ The Times รายงานว่า ฮิวจ์สเป็นคนที่ชื่นชอบในตัวของ โรแบร์โต เด แซร์บี จนเคยคิดจะดึงมาคุมทีมบอร์นมัธแทน สกอตต์ ปาร์กเกอร์ ที่อำลาทีมไปเมื่อปี 2022 เพียงแต่เกิดความล่าช้าในการเจรจาเพราะสโมสรมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของ ทำให้ไบรท์ตันปาดหน้าคว้ากุนซือชาวอิตาลีไปแทนที่ เกรแฮม พอตเตอร์ ได้ก่อน
ก็น่าสนใจว่า เด แซร์บี จะมีโอกาสได้รับการติดต่อจากฮิวจ์สอีกครั้งหรือไม่ หรือจะเป็นใครอื่น
ส่วนงานสำคัญรองลงมาคือ การตัดสินอนาคตของ 3 แกนหลักอย่าง ฟาน ไดจ์ค, ซาลาห์ และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่รอการเจรจาต่อสัญญา ซึ่งเรื่องเงียบมานานเพราะสโมสรไม่มีคนดูแลจัดการในเรื่องนี้
ไปจนถึงการวางแผนสำหรับการปรับทัพเสริมทีมเพื่อสู้ศึกในฤดูกาลหน้า ที่แม้จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการหลังจบฤดูกาลนี้ แต่เชื่อว่าฮิวจ์สน่าจะแอบทำการบ้านมาพอสมควรแล้วในตอนนี้
โดยที่การตัดสินใจของเขาจะมีความสำคัญต่ออนาคตของลิเวอร์พูลเป็นอย่างยิ่ง
หงส์แดงจะโบยบินต่อหรือพอแค่นี้ อยู่ที่ผู้อำนวยการคนนี้เลย
อ้างอิง:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ กลับมารับงานที่ ลิเวอร์พูล อีกครั้ง พร้อมได้ ริชาร์ด ฮิวจ์ส นั่ง ผอ.กีฬาหงส์แดงคนใหม่
- การได้ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ กลับมา สำคัญกับ ลิเวอร์พูล อย่างไร?
- ‘Visualization’ วิธีฝึกจิตพิชิตประตูแบบ โม ซาลาห์