×

การได้ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ กลับมา สำคัญกับลิเวอร์พูลอย่างไร?

12.03.2024
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 MIN READ
  • FSG ต้องการ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ กลับมาเพื่อ ‘ปรับโครงสร้าง’ ของลิเวอร์พูลใหม่ทั้งหมด
  • ในเบื้องหลังมีการพยายามหาคนที่จะมาทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสร ซึ่งจะเป็น ‘ลูกมือ’ ของเอ็ดเวิร์ดส์อีกที โดยชื่อที่ออกมาคือ ริชาร์ด ฮิวจ์ส ผู้อำนวยการสโมสรของบอร์นมัธ
  • ขั้นต่อไปคือ การหาตัวผู้จัดการทีมคนใหม่ ที่คาดว่าจะเริ่มต้นอย่างจริงจังทันทีที่มีการยืนยันตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสรคนใหม่

ภายหลังจากที่มีกระแสข่าวว่า กลุ่ม Fenway Sports Group (FSG) ตัดสินใจที่จะขอลองพยายามครั้งสุดท้าย เพื่อกล่อมให้ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ อดีตผู้อำนวยการสโมสรฝ่ายฟุตบอล กลับมาช่วยลิเวอร์พูลอีกครั้ง ล่าสุดดูเหมือนจะมีข่าวดี เมื่อความพยายาม ‘ง้อ’ ครั้งนี้ประสบความสำเร็จ

 

ตามรายงานจาก The Times และ The Athletic ยืนยันว่า เอ็ดเวิร์ดส์จะกลับมาช่วยลิเวอร์พูลอีกครั้งนับตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป

 

เพียงแต่จะเปลี่ยนบทบาทใหม่ โดยไม่ได้กลับมาเป็นผู้อำนวยการสโมสรฝ่ายฟุตบอลของลิเวอร์พูลแล้ว แต่จะได้ตำแหน่งที่สูงกว่าใน FSG แทน

 

การกลับมาครั้งนี้ของเอ็ดเวิร์ดส์สำคัญกับลิเวอร์พูลที่จะต้องเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยอย่างไร

 

 

ข่าวการยอมรับข้อเสนอที่จะกลับมาช่วยเหลือทีมเก่าอีกครั้งของอดีตผู้อำนวยการสโมสรรายนี้ ถือว่าเป็นข่าวดีอย่างมากสำหรับลิเวอร์พูล หรือพูดให้ตรงกว่านั้นคือ เป็นข่าวดีสำหรับ FSG

 

นั่นเพราะนับจากที่เอ็ดเวิร์ดส์ตัดสินใจอำลาตำแหน่งกับสโมสรเมื่อจบฤดูกาล 2021/22 ซึ่งเป็นปีที่พวกเขาไล่ล่าคว้า ‘Quadruple’ หรือ ‘4 แชมป์’ ไป ลิเวอร์พูลสูญเสียความมั่นคงในส่วนของคนที่จะวางกลยุทธ์ของสโมสรไปทันที

 

ผู้อำนวยการสโมสรผู้นี้คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสนับสนุนการให้ลิเวอร์พูลนำ Data เข้ามาใช้ในการรวบรวมข้อมูลเพื่อตัดสินใจ และนำไปสู่กระบวนการสรรหานักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม ซื้อตัวที่เหมาะสมเข้ากับสโมสรได้อย่างแม่นยำ 

 

ไปจนถึงเป็นคนอยู่เบื้องหลังการเจรจาระดับเทพ โดยเฉพาะตำนานการขาย ฟิลิปป์ คูตินโญ ให้บาร์เซโลนา ได้เงิน 145 ล้านปอนด์ (ซึ่งนำมาซื้อ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กับ อลิสสัน เบ็คเกอร์ ที่เป็นจุดเปลี่ยนพาทีมกวาดทุกความสำเร็จ) หรือการขายดาวรุ่งอย่าง โดมินิก โซลังกี, ไรอัน บรูว์สเตอร์ ได้เงินกลับมามากกว่า 45 ล้านปอนด์ ทั้งๆ ที่ยังไม่แจ้งเกิดดี

 

เพราะแม้ว่า จูเลียน วอร์ด ลูกมือคนสำคัญของเอ็ดเวิร์ดส์ จะเข้ารับตำแหน่งต่อ แต่ก็อยู่ในตำแหน่งได้เพียงแค่ฤดูกาลเดียว ก่อนที่จะตัดสินใจอำลาสโมสรไป เช่นเดียวกับ เอียน เกรแฮม หัวหน้าแผนกวิจัยที่เป็นเหมือน ‘AI’ ที่คอยรวบรวมข้อมูลและประมวลผลให้ลิเวอร์พูลตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาก็อำลาทีมไปด้วย ก่อนจะตั้งบริษัทของตัวเองอย่าง Ludonautics 

 

เรียกได้ว่าเป็นอาการ ‘สมองไหล’ อย่างรุนแรง

 

เหตุผลที่บรรดาหัวกะทิของสโมสรอำลาทีมไปนั้นเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะรายของเอ็ดเวิร์ดส์ที่ชี้แจงการตัดสินใจว่า เป็นเพราะอยากพักหลังจากที่ทำงานอย่างหนักตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีกับลิเวอร์พูล

 

 

แต่ก็มีการวิเคราะห์กันว่า ในเบื้องหลังแล้ว อดีตผู้อำนวยการสโมสรคนเก่งรายนี้มีปัญหาในการทำงานร่วมกับ เจอร์เกน คล็อปป์ ที่มี ‘อำนาจ’ ภายในสโมสรมากขึ้นจนเหนือกว่าคนทำงานอีกฟากอย่างเอ็ดเวิร์ดส์ที่ดูแลเรื่องนอกสนาม

 

หนึ่งในประเด็นที่ถูกจับตามองคือ กรณีการต่อสัญญาของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมลิเวอร์พูล ในปี 2021

 

ในมุมของสโมสร เอ็ดเวิร์ดส์ไม่ต้องการที่จะต่อสัญญากับนักเตะวัย 31 ปี ในเวลานั้นเนื่องจากอดีตกัปตันทีมยังเหลือสัญญากับสโมสรอีก 2 ปีจนถึงปี 2023 แต่ทางด้านเฮนเดอร์สันต้องการได้รับสัญญาใหม่ ซึ่งสุดท้ายคล็อปป์ได้เข้าแทรกแซงในเรื่องนี้ จนทำให้สโมสรต้องยอมต่อสัญญาใหม่กับเฮนเดอร์สันจนถึงปี 2025

 

เรื่องนี้ถูกมองว่าเป็น ‘ฟางเส้นสุดท้าย’ ที่ทำให้เอ็ดเวิร์ดส์ตัดสินใจอำลาตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสรเมื่อจบฤดูกาล

 

และมีการประกาศเอาไว้ว่า จะไม่มีวันกลับมารับตำแหน่งเดิมที่ลิเวอร์พูลอีก

 

แต่จากสถานการณ์ระส่ำของลิเวอร์พูล เมื่อคล็อปป์ตัดสินใจที่จะขออำลาทีมหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้ด้วยเหตุผลของคนหมดไฟ ในขณะที่ตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสรก็ว่างด้วยเช่นกัน เมื่อ ยอร์ก ชมัดท์เค ที่เข้ามารับตำแหน่งเป็นการชั่วคราวเมื่อช่วงฤดูร้อน ได้ขออำลาตำแหน่งเมื่อสิ้นเดือนมกราคม หรือรอบตลาดฤดูหนาวที่ผ่านมา

 

ไม่นับทีมสตาฟฟ์ชุดปัจจุบันที่ขออำลาสโมสรตามคล็อปป์ไปเกือบยกชุด

 

เท่ากับลิเวอร์พูลจะไม่เหลือใครเลยในตำแหน่งสำคัญของฝั่ง ‘ในสนาม’

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ทางด้าน FSG ต้องการเอ็ดเวิร์ดส์กลับมาเพื่อ ‘ปรับโครงสร้าง’ ของลิเวอร์พูลใหม่ทั้งหมด

 

 

‘Liverpool 2.0’ ที่แท้จริง

 

การยอมกลับมาของเอ็ดเวิร์ดส์นั้นเป็นเครดิตของทีมบริหาร FSG นำโดย ไมค์ กอร์ดอน ซึ่งเป็นอีกคนที่มีความสำคัญกับสโมสรอย่างมาก ที่พยายามตามตื๊อเพื่อขอดึงตัวคนเก่งและมีความสามารถกลับมาช่วยเหลืองานกันอีกครั้ง

 

ในครั้งแรกที่มีการติดต่อไปหลังข่าวการเตรียมอำลาของคล็อปป์ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ถูกอดีต DOF ปฏิเสธไปแทบจะทันที

 

แต่หลังจากที่ปล่อยให้เวลาผ่านมาอีก 1 เดือนโดยที่ FSG มองไม่เห็นคนที่มีความเหมาะสมที่จะทำงานด้วยจริงๆ ทำให้มีการติดต่อกลับไปยังเอ็ดเวิร์ดส์อีกครั้ง เพื่อหวังจะเกลี้ยกล่อมให้กลับมาช่วยเหลือสโมสรอีกครั้งให้ได้

 

โดยที่คราวนี้กอร์ดอนได้เปลี่ยนแนวทางเล็กน้อยแต่สำคัญ เพราะแทนที่จะให้กลับมานั่งตำแหน่งเดิมในบทบาทผู้อำนวยการสโมสรลิเวอร์พูล ก็ให้มานั่งแท่นในตำแหน่งระดับสูงของ FSG แทน โดยได้รับมอบหมายให้ดูแลโครงสร้างของทีมหงส์แดง ‘ทั้งหมดทุกอย่าง’

 

พูดง่ายๆ ก็คือ ยกลิเวอร์พูลให้เอ็ดเวิร์ดส์ไปดูแล อยากบริหารให้เป็นแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น

 

‘วิสัยทัศน์’ ของเอ็ดเวิร์ดส์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘Visionary’ จึงมีความสำคัญอย่างมาก

 

ข้อเสนอดังกล่าวฟังดูน่าสนใจ ทำให้อดีตผู้อำนวยการสโมสรคนเก่งยอมที่จะเดินทางไปเจรจากันที่บอสตันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่จะยอมรับข้อเสนอที่จะกลับมาอีกครั้ง

 

เพียงแต่ ‘หมาก’ นั้นไม่ได้วางไว้แค่ชั้นเดียว

 

 

เพราะในเบื้องหลังมีการพยายามหาคนที่จะมาทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสร ซึ่งจะเป็น ‘ลูกมือ’ ของเอ็ดเวิร์ดส์อีกที โดยชื่อที่ออกมาคือ ริชาร์ด ฮิวจ์ส ผู้อำนวยการสโมสรของบอร์นมัธ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นมือดีคนหนึ่งของวงการ และมีส่วนสำคัญในการช่วยเปลี่ยนแปลงให้สโมสรกลับมาเป็นทีมที่เอาตัวรอดในพรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง ด้วยการแต่งตั้ง อันโดนี อิราโอลา เข้ามารับตำแหน่ง

 

ที่สำคัญคือ เอ็ดเวิร์ดส์และฮิวจ์สรู้จักกันเป็นอย่างดี มีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างใกล้ชิด

 

กระแสข่าวระบุว่า ฮิวจ์สจะอำลาตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสรบอร์นมัธหลังจบฤดูกาลนี้ ซึ่งดูเป็นเรื่องเหมือนบังเอิญดี

 

ถ้าเป็นไปตามนี้ เท่ากับลิเวอร์พูลได้เดินหมากไปแล้ว 2 ชั้น คือ จะได้ทั้งเอ็ดเวิร์ดส์มาดูภาพใหญ่ของสโมสร และให้ฮิวจ์สทำงานในบทผู้อำนวยการสโมสร ซึ่งทั้งสองตำแหน่งถือว่าสำคัญอย่างมากต่ออนาคตของทีม โดยเฉพาะในยุคหลังจากนี้ที่จะไม่มีผู้จัดการทีมที่มหัศจรรย์อย่างคล็อปป์อยู่กับทีมอีกแล้ว การสานต่อและสร้างลิเวอร์พูลยุคใหม่ ‘Post Klopp Era’ เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก

 

ส่วนขั้นต่อไปคือ การหาตัวผู้จัดการทีมคนใหม่ ที่คาดว่าจะเริ่มต้นอย่างจริงจังทันทีที่มีการยืนยันตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสรคนใหม่ โดยมีรายชื่อของคนที่ถูกมองว่าอยู่ในข่าย 2 คนด้วยกัน

 

หนึ่งคือ ชาบี อลอนโซ ที่กำลังพาไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ลุ้นคว้าแชมป์บุนเดสลีกาสมัยแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร

 

อีกหนึ่งคือ รูเบน อโมริม กุนซือคนหนุ่มไฟแรงของสปอร์ติง ลิสบอน ที่มีแนวทางในการทำทีมที่น่าสนใจ

 

คาดว่ากระบวนการหาผู้จัดการทีมคนใหม่จะถูกเร่งรัดอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะวางแผนสำหรับการทำงานในฤดูกาลหน้า เพราะยังมีเรื่องใหญ่ที่ต้องตัดสินใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การปรับทัพเสริมทีม ไปจนถึงการต่อสัญญาของนักเตะคีย์แมนหลายรายทั้ง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค หรือ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่กำลังจะเข้าช่วงอ่อนไหวในการเจรจา

 

จุดที่น่าสนใจคือ การที่ FSG เร่งการดึงตัวเอ็ดเวิร์ดส์ ไปจนถึงการเจรจาหาผู้อำนวยการสโมสรคนใหม่ อาจเกิดจากการที่หนึ่งในเป้าหมายอย่างอลอนโซตกเป็นข่าวอย่างหนักกับบาเยิร์น มิวนิก ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งลิเวอร์พูลยังทำอะไรไม่ได้ถ้ายังไม่มีคนรับผิดชอบงานส่วนนี้ในการไปเจรจา

 

โดยที่มีรายละเอียดเล็กๆ ที่น่าสนใจให้คิดกันสนุกๆ

 

ริชาร์ด ฮิวจ์ส มีเอเจนต์คนเดียวกับ ชาบี อลอนโซ คือ อิญากี อิบาเนซ

 

น่าจับตามองว่า จะมีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้นอีกไหมในการสร้างลิเวอร์พูลยุคใหม่ที่จะเห็นภาพชัดขึ้นหลังจากนี้

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising