เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO ออกมาแสดงจุดยืนปฏิเสธแนวทางที่ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (27 กุมภาพันธ์) ว่า กลุ่มประเทศสมาชิก NATO กำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะส่งทหารไปยังยูเครน ท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบกับรัสเซียที่ดำเนินมานานกว่า 2 ปีแล้ว
โดยสโตลเทนเบิร์กยืนยันว่า NATO ไม่มีแผนการที่จะส่งกองกำลังทหารเข้าไปยังยูเครนแต่อย่างใด
ขณะที่มาครงยังเคยกล่าวในที่ประชุมผู้นำยุโรปเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ว่า “ถึงแม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีฉันทมติที่จะส่งกองกำลังทหารเข้าไปปฏิบัติการภาคพื้นดิน แต่ก็ไม่มีทางเลือกไหนสามารถตัดทิ้งไปได้”
ท่าทีของผู้นำฝรั่งเศสทำให้หลายฝ่ายเป็นกังวลว่า สถานการณ์ในสงครามรัสเซีย-ยูเครนจะตึงเครียดเพิ่มมากยิ่งขึ้น แม้ NATO จะปฏิเสธแผนการส่งกองกำลังทหารไปยังยูเครน แต่ NATO ก็เน้นย้ำว่าพันธมิตร NATO จะยังคงสนับสนุนยูเครนอย่างแข็งขันต่อไป
สโตลเทนเบิร์กยังระบุอีกว่า นี่คือสงครามรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง และตามกฎหมายระหว่างประเทศแล้ว ยูเครนมี ‘สิทธิในการป้องกันตัวเอง’ (Right to Self-Defence) และเราก็มีสิทธิที่จะสนับสนุนสิทธินั้นของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม ความพยายามใดที่เกี่ยวข้องกับการที่จะส่งกองกำลังทหารจะต้องได้รับการสนับสนุนจากทุกประเทศสมาชิก NATO อย่างเป็นเอกฉันท์ ขณะที่มาครงปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดว่าประเทศใดบ้างที่กำลังพิจารณาการส่งกองกำลังทหารเข้าไปช่วยเหลือยูเครนในยามศึกสงคราม
ด้าน อูล์ฟ คริสเตอร์สสัน นายกรัฐมนตรีสวีเดน ว่าที่ประเทศสมาชิกใหม่ NATO เผยว่า สวีเดนเองก็ไม่มีแผนที่จะส่งกองกำลังทหารเข้าไปยังยูเครน ขณะที่สมาชิก NATO ประเทศอื่นๆ จะเน้นการส่งมอบความช่วยเหลือด้านการรบผ่านความสัมพันธ์ในรูปแบบทวิภาคีมากกว่าจะผ่านองค์การด้านความมั่นคงอย่าง NATO
แฟ้มภาพ: Artur Widak / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง: