วันนี้ (27 กุมภาพันธ์) ประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด, วัชรินทร์ ภาณุรัตน์, ณรงค์ ศรีระสันต์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันแถลงข่าวในคดีที่อัยการสูงสุดรับดำเนินคดีอาญาฟ้อง พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 กับพวก รวม 8 คน ตามมติสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ประยุทธ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ตามที่ ป.ป.ช. มีหนังสือถึงอัยการสูงสุด แจ้งมติ ป.ป.ช. ขอให้ดำเนินคดีอาญาฟ้อง พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1, พล.ต.ต. ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5, พ.ต.อ. วิรดล ทับทิมดี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7, เนตร นาคสุข ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10, ชัยณรงค์ แสงทองอร่าม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9, ธนิต บัวเขียว ผู้ถูกกล่าวหาที่ 12, ชูชัย หรือพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 13 และ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 19
ซึ่งวันนี้อัยการสูงสุดได้พิจารณาสำนวนคดีดังกล่าวแล้ว มีคำสั่งรับดำเนินคดีอาญาฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 8 ราย ตามมติ ป.ป.ช. ดังนี้
- รับดำเนินคดี พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมาธิการ ในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1) และ พล.ต.อ. ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐาน (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5)
- ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาหรือจัดการให้เป็นไปตามหมายอาญา กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องโทษหรือให้รับโทษน้อยลง
- ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 157, 200 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1, พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 65 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172
- รับดำเนินคดี พ.ต.อ. วิรดล ทับทิมดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพนักงานสืบสวนสอบสวน (สบ 3) สน.ทองหล่อ (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7)
- ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- ฐานเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาหรือจัดการให้เป็นไปตามหมายอาญา กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง
- ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 200, พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1, พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 65 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172
- รับดำเนินคดี เนตร นาคสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอัยการสูงสุด (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10)
- ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- ฐานเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาหรือจัดการให้เป็นไปตามหมายอาญา กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องโทษหรือให้รับโทษน้อยลง
- ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 200, พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172
- รับดำเนินคดี ชัยณรงค์ แสงทองอร่าม พนักงานอัยการ (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9), ธนิต บัวเขียว (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 12), ชูชัย หรือ พิชัย เลิศพงศ์อดิศร (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 13), รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 19)
- ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาหรือจัดการให้เป็นไปตามหมายอาญา กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องโทษหรือให้รับโทษน้อยลง
- ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86, 157, 200, พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1, พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 65 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172
อัยการสูงสุดมอบหมายให้พนักงานอัยการ และสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เป็นผู้ฟ้องและดำเนินคดี ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 8 คนแทนอัยการสูงสุด และให้แจ้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบ เพื่อให้ดำเนินการส่งผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 8 ราย ที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งรับดำเนินคดีฟ้อง โดยให้ส่งตัวไปยังสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เพื่อฟ้องคดีภายในอายุความตามกฎหมายต่อไป
ประยุทธกล่าวว่า สำหรับผู้ถูกกล่าวหาอื่นๆ ได้แก่ พล.ต.ท. มนู เมฆหมอก ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 และ พ.ต.อ. วิวัฒน์ สิทธิสรเดช ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติกันไว้เป็นพยาน
พ.ต.ท. ปัณณ์ณภณ นามเมือง หรือ คทาธร พัชรนามเมือง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 พล.อ.ท. จักรกฤช ถนอมกุลบุตร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 14 และ พล.อ.ท. สุรเชษฐ ทองสลวย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 15 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตาม ป.วิอาญา และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 63
สำหรับ พล.ต.ท. เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ถูกกล่าวที่ 11 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 64
ในส่วน ธานี อ่อนละเอียด สมาชิกวุฒิสภา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 พ.ต.ท. ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 วรพล โสคติยานุรักษ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 16 อุสาห์ ชูสินธ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 17 และ ณัฏณิชา ทองชื่น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 18 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติไม่ชี้มูลความผิด
ประยุทธกล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปการดำเนินการของอัยการสูงสุดจะมีหนังสือแจ้งไปที่ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการให้ได้ตัวมาตามที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งรับดำเนินคดี ซึ่งคดีนี้เข้าเขตอำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบฯ
สำหรับคำสั่งของอัยการสูงสุดครั้งนี้ถือว่าเสร็จสิ้นการสั่งคดีตามขั้นตอนกฎหมาย ต่อไปเป็นการพิจารณาคดีในชั้นศาล
สำหรับคดีนี้ก่อนที่อัยการสูงสุดจะรับดำเนินคดีมีรายงานว่า เดิมสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ได้เสนอความเห็นต่ออัยการสูงสุดเกี่ยวกับข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนการสอบสวนคดีนี้ และขอให้ตั้งคณะทำงานร่วมกัน 2 ฝ่ายเพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อสำนวนมาถึง อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ พิจารณาแล้วมีคำสั่งรับดำเนินคดีโดยไม่ต้องตั้งข้อไม่สมบูรณ์