วันนี้ (22 กุมภาพันธ์) ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ชี้แจงกรณีตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีที่พบความเชื่อมโยงไปยังกลุ่มบัญชีม้าของเครือข่ายเว็บพนันมินนี่ ซึ่งทางตำรวจชุดทำคดีได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และมาตรา 149 เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินฯ
บุกค้นบ้านพักเพื่อตามหาผู้ต้องหาคดีเว็บพนัน
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ระบุว่า เรื่องนี้ต้องเริ่มต้นเล่าจากคดีแรกที่มีชุดปฏิบัติการมาทำการตรวจค้นบ้านเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 ตนพบว่ามีการปกปิดข้อเท็จจริงในการขอหมายค้นจากชั้นศาล เนื่องจากไม่ระบุในหมายค้นว่าเป็นบ้านของรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุเพียงบ้านเลขที่ ส่วนการออกหมายจับผู้ใต้บังคับบัญชาต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ในคดีมินนี่ทั้ง 8 นาย ชุดทำคดีมีการใช้คำนำหน้าว่า ‘นาย’ ประกอบอาชีพรับจ้าง ซึ่งในกรณีเป็นข้าราชการ พนักงานสอบสวนจะต้องขอหมายจับจากศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเท่านั้น
หมายความว่าเจ้าหน้าที่เกรงว่าศาลอาจจะไม่ออกหมายค้นหรือหมายจับให้หรือไม่ เพราะหากศาลทราบว่าผู้ต้องหาในคดีเป็นตำรวจอาจจะออกเป็นหมายเรียกให้แทนเนื่องจากมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง นอกจากนี้ยังมีข้อบังคับตามศาลฎีการะบุไว้ด้วยว่า การจะขอหมายค้นบ้านต้องทราบว่าบุคคลที่อยู่อาศัยคือใคร ฉะนั้นสรุปได้ว่าปฏิบัติการครั้งนั้นจึงมีพิรุธ ไม่ตรงไปตรงมา
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า การเข้าตรวจค้นบ้านครั้งนั้นผลสุดท้ายไม่พบสิ่งใดผิดกฎหมาย แต่พบความเชื่อมโยงทางการเงินที่ พ.ต.ท. คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสำโรงเหนือ หนึ่งในลูกน้องคนสนิทที่เป็นผู้ทำธุรกรรมต่างๆ ให้ตนมีการใช้บัญชีม้า
การโยงใยเส้นทางการเงินบัญชีม้า
ทั้งนี้ หากลูกน้องทำผิด ตนในฐานะหัวหน้าก็ต้องรู้ แต่ตนไม่ได้รู้ทุกเรื่อง และตนได้พูดคุยกับ พ.ต.ท. คริษฐ์ ไปแล้ว แต่เรื่องนี้ต้องยกตัวอย่างว่าหากตนใช้เลขาฯ ไปโอนเงินค่าใช้จ่ายให้พ่อแม่ แต่หากเลขาฯ ไปใช้บัญชีม้าโดยที่ตนไม่ทราบนั้นตนจะผิดหรือไม่ ไม่ใช่ว่าลูกน้องตนทำผิดแล้วตนจะต้องมาผิดด้วย
นอกจากนี้ตนชี้แจงได้หมดว่าการทำบุญบริจาคต่างๆ ไม่ใช่การเลี่ยงภาษี ตนจ่ายภาษีทุกบาท ยืนยันว่าไม่มีเส้นทางการเงินจากเว็บพนันใดที่เข้าและออกจากตน มีแต่ไปจับกุมเท่านั้น ส่วนที่มีการระบุว่าเส้นทางการเงินอาจเกี่ยวเนื่องไปถึงญาติใกล้ชิด ก็ยินดีให้เชิญครอบครัวตนมาสอบปากคำได้ เพราะไม่มีใครเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน
ขั้นตอนทางคดีที่ควรเป็น
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนทางคดี เมื่อพนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการสั่งฟ้องลูกน้องตนทั้ง 8 นายนั้นก็ยังไม่ปรากฏว่ามีชื่อตน กระทั่งสัปดาห์ที่ผ่านมามีการรายงานข่าวว่ามีรายชื่อตนปรากฏในคดี และให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ซึ่งตนก็ไม่ทราบเรื่อง แต่ตามขั้นตอนนั้นเมื่อพนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการแล้ว พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำหรือแจ้งข้อกล่าวหาไม่ได้อีก เว้นแต่อัยการสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม
สำนวนคดีนี้ส่งไปยัง ป.ป.ช. ตั้งแต่ปี 2566 โดย ป.ป.ช. เป็นหน่วยงานตรวจสอบการทุจริตโดยตรง ด้วยระบบไต่สวนซึ่งรอบคอบกว่าระบบกล่าวหาของตำรวจ ตนต้องถามว่าตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้มียศอะไรบ้าง ขอให้ตำรวจยศสูงๆ มาพูดบ้าง อย่าเพียงให้ลูกน้องมาพูดแทน
ทั้งยังมีการแถลงข่าวว่าอยากให้ ป.ป.ช. ส่งคดีกลับมาให้ตำรวจรับผิดชอบนั้นถือว่าเป็นการกดดัน ป.ป.ช. หรือไม่ หรือไม่เชื่อมั่นในระบบไต่สวนของ ป.ป.ช. หรือไม่
การร้องทุกข์กล่าวโทษไม่ใช่แจ้งข้อหา
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า การที่พนักงานสอบสวนได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อตนและลูกน้องตนถือเป็นเพียงการตั้งข้อสังเกตว่าบุคคลนั้นกระทำผิดหรือไม่ ยังไม่ใช่การแจ้งข้อหา เมื่อส่งไปยัง ป.ป.ช. ก็จะต้องไต่สวนก่อนว่ามีมูลหรือไม่ หากมีมูลก็ต้องแสวงหาข้อเท็จจริง ก่อนจะไต่สวนเริ่มกระบวนการ และหากมีมูลผิดจริงก็จะแจ้งข้อกล่าวหา
การที่ตนถูกร้องทุกข์กล่าวโทษ มาตรา 157 และมาตรา 149 ในเรื่องรับเงินนั้น ตนก็งงว่าตนรับอะไร ดังนั้นขณะนี้ตนยังยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อตน
นอกจากนี้ ในการแถลงข่าว พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยังระบุถึงเงินที่หมุนเวียนในเว็บพนันจำนวน 1,300 ล้านบาทนั้นว่าคดีที่เกี่ยวกับเม็ดเงินที่มากกว่า 300 ล้านบาทนั้นเป็นความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจไม่มีอำนาจสอบสวน
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้รับผิดชอบด้านตำรวจไซเบอร์ ไม่ได้ปราบเว็บพนัน ใครจะมาจ่ายส่วยให้ตนเพราะไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ เชื่อว่าเรื่องนี้สื่อมวลชนคงจะทราบกันดี หากตนได้รับผิดชอบ 7 วันตนปราบเว็บพนันได้หมดทั้งประเทศ ฝากถึงตำรวจทุกนายว่ามาแข่งกันทำงานดีกว่า อย่าแข่งกันอิจฉาริษยา ตอนนี้ไม่กังวลหรือมีความเครียดใดๆ