วันนี้ (21 กุมภาพันธ์) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลัง เป็นประธานประชุมมอบนโยบายคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ครั้งที่ 1/2567 โดยมีกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีเข้าร่วม 23 คน จากทั้งหมด 30 คน
เศรษฐากล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เป็นโอกาสดีที่ได้มาพบกัน กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งสำคัญที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถ ทักษะความชำนาญ และประสบการณ์ ในงานแขนงต่างๆ มาช่วยกันขับเคลื่อนงานสำคัญในรัฐบาลให้สัมฤทธิ์ผลเป็นรูปธรรม
เศรษฐาอีกกล่าวว่า ยินดีที่จะได้ร่วมงานกับทุกคน จากนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา ทุกคนทราบดีว่ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาวิกฤตที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ รวมทั้งความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และความขัดแย้งระดับภูมิภาคล้วนซ้ำเติมให้วิกฤตเศรษฐกิจยืดเยื้อขยายตัวเป็นวงกว้าง
รัฐบาลมีนโยบายระยะสั้นที่มุ่งเน้นกระตุ้นการใช้จ่าย จุดเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจ เพื่อแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วน สร้างโอกาส สร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ และนำพาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแก่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน
อย่ามองคนละพรรค คนละกระทรวง
เศรษฐากล่าวว่า หวังว่าการที่เรามานั่งอยู่ตรงนี้ ทุกคนอยากฟื้นฟูปัญหาที่มีอยู่ในทุกมิติ อยากให้ทุกคนช่วยกันทุ่มเทและประชุมกันอย่างต่อเนื่อง แต่ละคนอาจมีความคุ้นเคยในสายการเมืองในอดีต แต่วันนี้เรามาร่วมรัฐบาลเดียวกัน ขอความกรุณาอย่าบอกว่ามาจากพรรคนั้นพรรคนี้ บางคนก็มีความสัมพันธ์กันมาตั้งแต่รุ่นก่อน อาจจะเคยอยู่พรรคเดียวกันมา อย่ามองว่าแต่ละคนแต่ละพรรค หรือเป็นกรรมการ หรือผู้ช่วยรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง กระทรวงก็มีความเหลื่อมล้ำกันในแง่ขอบเขตงานที่ต้องทำ
ขอทุกฝ่ายลดกำแพง จับมือทำงาน 3 ปีครึ่ง
“การที่เรามาพบกันอย่างไม่เป็นทางการ หลายเรื่องน่าจะช่วยเหลือกันได้ เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีอะไรที่ล้ำกับกระทรวงเกษตรฯ อยู่เยอะ หรือกระทรวงพลังงานก็มี ตรงนี้ผมอยากให้มีการพูดคุย ที่จริงแล้วก็อาจเป็นคนละพรรค ตรงนี้อยากให้ลดกำแพงลงหน่อยจะได้พูดคุยกันได้ อยากให้มาพูดคุยกันดีกว่า เพราะเราต้องทำงานอีก 3 ปีครึ่ง เป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอที่จะช่วยกันได้ หรือโยกย้ายก็มีการพูดคุยกันได้ จึงอยากฝากไว้ เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง” เศรษฐากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของการประชุม นายกรัฐมนตรีได้รับฟังข้อเสนอจากกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และให้คำแนะนำในกรณีที่กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีแต่ละคนรับเรื่องร้องเรียนมา โดยขอให้ประสานพูดคุยกับเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป