ปูยี (Puyi) จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ชิงของจีนพระองค์สุดท้าย ถูกบังคับให้สละราชบัลลังก์ขณะพระชนมายุ 6 พรรษา เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 1912 ภายหลังการปฏิวัติซินไฮ่ และมีการลงนามเพื่อก่อตั้งสาธารณรัฐจีน
การสละราชบัลลังก์ของปูยียังถือเป็นการสิ้นสุดระบอบราชาธิปไตยของจีนอันยาวนานหลายพันปี โดยหลังการสละราชบัลลังก์ยังได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลของสาธารณรัฐจีนซึ่งมีข้อตกลงปฏิบัติต่อเขาเทียบเท่ากับกษัตริย์ของต่างประเทศ
ขณะที่ปูยีและสมาชิกราชวงศ์ยังได้รับอนุญาตให้พำนักอยู่ได้ในส่วนเหนือของพระราชวังต้องห้าม ก่อนจะถูกขับออกจากพระราชวังในปี 1924 และต้องอพยพไปยังเทียนจิน ซึ่งทำให้เขาเริ่มเข้าหาขุนศึกและญี่ปุ่นที่ต้องการครอบครองจีน
ต่อมาในปี 1932 หลังญี่ปุ่นเข้ารุกรานแมนจูเรีย และได้สถาปนารัฐหุ่นเชิดแมนจูกัวขึ้น ทำให้ปูยีได้รับเลือกให้เป็นผู้บริหารรัฐใหม่ ก่อนจะได้รับการประกาศให้เป็นจักรพรรดิแห่งแมนจูกัวในปี 1934 และปกครองเหนือจักรวรรดิใหม่ จนกระทั่งสิ้นสุดสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ในปี 1945
หลังการล่มสลายของแมนจูกัว ปูยีซึ่งถูกมองว่าเป็นหุ่นเชิดของญี่ปุ่น ได้สละตำแหน่งและพยายามหนีไปยังเกาหลีและญี่ปุ่น แต่ถูกกองทหารโซเวียตจับได้ที่สนามบิน และถูกคุมขังที่ไซบีเรียจนถึงปี 1950 ก่อนจะถูกส่งตัวกลับไปให้พรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งส่งตัวเขาและครอบครัวไปยังศูนย์จัดการอาชญากรสงคราม ก่อนจะมีการปรับทัศนคติจนเขาหันมายอมรับว่าเลื่อมใสลัทธิคอมมิวนิสต์ และเป็นพลเมืองจีนที่จงรักภักดีอย่างแท้จริง และได้รับการอภัยโทษอย่างเป็นทางการ
ชีวิตบั้นปลายของปูยีได้ทำงานพาร์ตไทม์เป็นผู้ช่วยคนสวนที่สวนพฤกษศาสตร์ปักกิ่ง และเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งไตในปี 1967 เมื่ออายุได้ 61 ปี
ภาพ: Hulton Archive / Getty Images