Tesla Inc. ขายรถยนต์ไฟฟ้าเพียง 1 คันในเกาหลีใต้ในเดือนมกราคม 2024 ภายใต้หลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความต้องการ ตั้งแต่ความกังวลเรื่องความปลอดภัยไปจนถึงราคาและการขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จ
การขายรถ SUV ในรุ่น Model Y เพียงคันเดียวเป็นเดือนที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022 เมื่อบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ตั้งอยู่ในออสติน รัฐเท็กซัส ซึ่งไม่มีการขายรถยนต์เลย ตามข้อมูลจากสำนักวิจัยที่ตั้งอยู่ในกรุงโซล Carisyou และกระทรวงพาณิชย์เกาหลี จำนวนรถยนต์ EV ใหม่ที่จดทะเบียนในเกาหลีลดลง 80% ในเดือนมกราคมจากเดือนธันวาคม ตามข้อมูลของ Carisyou
ผู้ผลิตรถยนต์กำลังเผชิญกับการชะลอความกระตือรือร้นสำหรับ EV ในเกาหลีใต้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคต้องจำกัดการใช้จ่าย ในขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับกรณีไฟไหม้แบตเตอรี่และการขาดแคลนสถานีชาร์จความเร็วสูงก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ความต้องการลดลงเช่นกัน
ยอดขายที่ต่ำของ Tesla ในเดือนมกราคมถือเป็นการกลับขั้วอย่างรุนแรงสำหรับแบรนด์ เนื่องจากรถยนต์ Model Y ที่ผลิตในจีนเป็นหนึ่งในรถยนต์ขายดีที่สุดในปีที่แล้ว
ลีฮังกู หัวหน้าสถาบันเทคโนโลยีการรวมยานยนต์จอนบุก ให้ความเห็นว่า ผู้ที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้วในช่วงแรกๆ และผู้บริโภคกลุ่มแมสยังไม่คิดจะซื้อในตอนนี้ ขณะเดียวกันความนิยมของ Tesla ยังได้รับผลกระทบจากความเชื่อมโยงกับจีน เขากล่าว
“ชาวเกาหลีส่วนใหญ่ที่ต้องการซื้อรถ Tesla ได้ซื้อไปแล้ว บางคนไม่ชอบ Tesla หลังจากพบว่าบางคันผลิตในจีน โดยมีความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพการผลิต” ลีกล่าว
สิ่งที่น่าสนใจคือกระทรวงสิ่งแวดล้อมได้เปิดเผยกฎหมายที่แก้ไขเกี่ยวกับการให้เงินอุดหนุนสำหรับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในปีนี้ ซึ่งถูกมองว่าเป็นเรื่องไม่เอื้ออำนวยต่อ Tesla, CATL และผู้ผลิตแบตเตอรี่จีนอื่นๆ ที่มุ่งเน้นการผลิตแบตเตอรี่ LFP (Lithium Ferro-Phosphate) ตามที่เจ้าหน้าที่ในอุตสาหกรรมกล่าว
เพื่อจัดหายานพาหนะที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น กระทรวงได้ตัดสินใจให้แรงจูงใจเพิ่มเติมสำหรับการซื้อ EV ที่มีระบบ On-Board Diagnostics หรือ OBD ซึ่งสามารถตรวจสอบระบบการทำงานภายในรถยนต์ พร้อมแจ้งเตือนเมื่อพบถึงความผิดปกติของรถยนต์ และแบตเตอรี่ที่มีความหนาแน่นพลังงานสูงขึ้น
Tesla ไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์ที่ทำให้ยานพาหนะของตนสามารถทำการทดสอบระบบดังกล่าว เนื่องจากมีความเป็นไปได้ของการรั่วไหลของเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติและระบบจัดการแบตเตอรี่ ซึ่งแม้ว่าเกาหลีจะไม่บังคับให้ติดตั้ง OBD แต่รถ EV อื่นๆ มีการติดตั้งระบบนี้
นอกจากนี้ Tesla คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการตัดสินใจของรัฐบาลที่จะเสนอเงินอุดหนุนเต็มรูปแบบเฉพาะผู้ที่ซื้อรถที่ราคาต่ำกว่า 55 ล้านวอน เนื่องจากรถ Model Y ที่ผลิตในจีนซึ่งเปิดตัวที่เกาหลีในปีที่แล้วมีราคา 56.9 ล้านวอน สิ่งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มองข้ามไม่ได้ เพราะจนถึงปีที่แล้ว ผู้ซื้อ EV ที่ราคาต่ำกว่า 57 ล้านวอนสามารถรับเงินอุดหนุน 100%
เจ้าหน้าที่ในอุตสาหกรรมกำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าบริษัทของสหรัฐฯ จะลดราคา EV ของตนลงอีกเพื่อดึงดูดผู้บริโภคในเกาหลีใต้หรือไม่ ในช่วงที่ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในระดับโลกชะลอตัวลง นอกจากนี้ ความจริงที่ว่ารถรุ่นใหม่ของ Tesla มีแบตเตอรี่ LFP เป็นอีกหนึ่งปัจจัยลบสำหรับธุรกิจของบริษัทในเกาหลี กระทรวงสิ่งแวดล้อมวางแผนที่จะให้แรงจูงใจเพิ่มเติมสำหรับการซื้อรถที่มีแบตเตอรี่ความหนาแน่นสูง ซึ่งง่ายต่อการรีไซเคิลมากขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบกับแบตเตอรี่ Ternary ซึ่งเป็นจุดสนใจหลักของบริษัทเกาหลี แบตเตอรี่ LFP มีความหนาแน่นพลังงานต่ำกว่า และต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการย่อยสลายเพื่อรีไซเคิล ซึ่งแม้ว่าผู้ผลิตแบตเตอรี่เกาหลีจะมองหาการผลิตแบตเตอรี่ LFP จำนวนมากตามแนวโน้มของผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกที่พยายามลดราคา EV แต่พวกเขายังคงเป็นรองคู่แข่งจีนในแง่ของการผลิตแบตเตอรี่ที่มีต้นทุนต่ำ
ภาพ: Chris Jung / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง: