เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (6 กุมภาพันธ์) นักวิเคราะห์จาก Bernstein บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุน ประเมินว่าราคา Bitcoin จะสามารถทำลายจุดสูงสุดที่ 69,000 ดอลลาร์ สู่ระดับ 70,000 ดอลลาร์ คิดเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนอีกกว่า 65% ภายในปี 2024 โดยไร้ปัจจัยกดดัน พร้อมกับปัจจัยหนุนเพียบ
นักวิเคราะห์ยังกล่าวอย่างมั่นใจว่า ณ ระดับราคาของ Bitcoin ในปัจจุบันมีค่าคุ้มผลตอบแทนต่อการลงทุน (Risk Reward Ratio) ที่น่าสนใจอีกด้วย ด้วยปัจจัยบวกจากกระแสเงินไหลเข้าใน Bitcoin Spot ETF สุทธิ (Inflow) ที่เป็นบวก
โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากองทุนเหล่านี้ซื้อ Bitcoin เพิ่มอีกกว่า 19,000 ดอลลาร์ ซึ่งความต้องการที่เพิ่มขึ้นในระยะยาวจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin จากปริมาณ Bitcoin เองที่มีจำกัด
ประกอบกับการที่นักลงทุนจะเริ่มกระจายบางส่วนของพอร์ตการลงทุนมายัง Bitcoin มากขึ้น จากความเชื่อมั่นต่อเหรียญดังกล่าวที่มากขึ้น และการเปลี่ยนมุมมองมาเป็นว่าสินทรัพย์ดังกล่าวมีความมั่นคง
Gautam Chhugani และ Mahika Sapra นักวิเคราะห์ของ Bernstein ยังเขียนโน้ตกับนักลงทุนว่า การเปิดตัว 10 กองทุน Bitcoin Spot ETF ของสถาบันการเงินต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมายังได้เคยผลักดันราคาของ Bitcoin ให้แตะ 49,000 ดอลลาร์ได้แล้ว ก่อนจะปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวบริเวณ 42,600 ดอลลาร์ในปัจจุบัน ทำให้ในช่วงราคาที่ 42,000-43,000 ดอลลาร์ มีส่วนลดและคุ้มค่าต่อความเสี่ยง
นอกจากนี้ Bernstein ยังมองว่าปัจจัยบวกทางมหภาคยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสริมที่สำคัญ จากการที่ Fed มีโอกาสลดดอกเบี้ยจากระดับ 5-5.25% ลง ทำให้การออมเงินสดมีความน่าสนใจน้อยลง และโยกเงินไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น
หรือแม้แต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่กำลังจะถึงนี้ หากพรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้ง ก็อาจทำให้นโยบายการกำกับดูแลเป็นมิตรต่อคริปโตเคอร์เรนซีมากขึ้น ทำให้ภาพรวมตลาดเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้
Anthony Scaramucci ผู้ก่อตั้งและผู้จัดการของ SkyBridge เฮดจ์ฟันด์ด้านการลงทุน ยังประเมินว่า Bitcoin มีโอกาสแตะ 170,000 ดอลลาร์ภายในกลางถึงปลายปี 2025 เช่นกัน
อ้างอิง: