เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (31 มกราคม) บทวิจัยล่าสุดจาก ARK Invest บริษัทด้านจัดการการลงทุนภายใต้การบริหารของ เคธี วูด แนะว่า ในปี 2023 ที่บิทคอยน์ทำผลตอบแทนได้ระดับ 100% หากสถาบันการเงินแบ่งเงินลงทุนในพอร์ตไปยังเหรียญดังกล่าวที่สัดส่วน 19.4% ของพอร์ต จะเป็นตัวเลขการกระจายความเสี่ยงเทียบกับผลตอบแทนที่เหมาะสมที่สุด
ในบทวิจัยดังกล่าวยังได้ทำตัวเลขผลตอบแทนจากการลงทุนของบิทคอยน์เทียบกับสินทรัพย์หลักๆ อย่างอื่นในช่วง 7 ปีย้อนหลังมานี้ ยังพบว่าอัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ยต่อปีของบิทคอยน์สูงถึง 44% ต่อปี ในขณะที่สินทรัพย์ดั้งเดิมมีผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ยแค่ราว 5.7% เท่านั้นเอง
แม้ความผันผวนในระยะสั้นของบิทคอยน์จะทำให้นักลงทุนสงสัยต่อผลตอบแทนในระยะยาวของบิทคอยน์ก็ตาม แต่หากนักลงทุนที่เชื่อมั่นและลงทุนในเหรียญคริปโตดังกล่าวได้ในระยะเวลาที่นานพอ (Long Term Time Frame) ก็จะสามารถทำผลตอบแทนที่น่าประทับใจได้
ซึ่งในงานวิจัยของ ARK ชี้ว่า คำถามสำคัญที่ควรตั้งมากกว่าว่า ‘ควรซื้อ (บิทคอยน์) เมื่อไร’ คือการตั้งคำถามว่า ‘ควรถือ (บิทคอยน์) ไปนานเท่าไร’ ต่างหาก เพราะใครก็ตามที่ถือบิทคอยน์มากกว่า 5 ปี จะทำกำไรได้หมดที่ทุกระดับราคา
นอกจากนี้ ARK Invest ยังประเมินว่า ด้วยเงินลงทุนของสถาบันการเงินทั่วโลกที่มีอยู่ทั้งหมดในขณะนี้ มากถึง 250 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8,750 ล้านล้านบาท หากแบ่งไปยังบิทคอยน์ที่ราว 1%, 4.8% และ 19.4% ของเงินดังกล่าว ก็จะทำให้บิทคอยน์สามารถแตะ 120,000 ดอลลาร์, 550,000 ดอลลาร์ และ 2,300,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญตามลำดับได้เลยทีเดียว
ในขณะที่ช่วงเดือนมกราคม 2022 นักลงทุนชื่อดังอย่าง เรย์ ดาลิโอ ผู้ก่อตั้งกองทุน Bridgewater Associates มองว่าการลงทุนบิทคอยน์ในระดับ 1-2% ของพอร์ตจะเป็นตัวเลขที่เหมาะสม เช่นเดียวกับที่ JPMorgan แนะไว้ในปี 2023 ว่าตัวเลขที่เหมาะสมอยู่ที่ระดับ 1% เพื่อเป็นสินทรัพย์ป้องกันความผันผวนจากสินทรัพย์ดั้งเดิมอย่างหุ้น พันธบัตร และโภคภัณฑ์
โดยในช่วงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (1 กุมภาพันธ์) บิทคอยน์ทำผลตอบแทนปิดเดือนมกราคมของปี (2024) ไปที่ -2% นับจากต้นปี จากระดับ 45,000 ดอลลาร์ ลงมาเคลื่อนไหวบริเวณ 43,200 ดอลลาร์ หลังปัจจัยการเก็งกำไรของกองทุน Bitcoin Spot ETF จบไปในเดือนมกราคมเป็นที่เรียบร้อย
ในขณะที่ราคาเหรียญอื่นๆ ในตลาด อย่าง Ethereum ก็ปรับตัวลงมาเพียงเล็กน้อย -1.7% จากระดับ 2,380 ดอลลาร์ในช่วงต้นปี มาเคลื่อนไหวบริเวณ 2,311 ดอลลาร์ตามภาวะตลาดคริปโตที่เริ่มชะลอตัวลงจากกระแสเงินที่ไหลออก
อ้างอิง: