วันนี้ (31 มกราคม) ที่กองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.อ.อ. พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึงกรณีกรรมาธิการทหารแจ้งความประสงค์ขอลงพื้นที่ตรวจสอบสนามกอล์ฟกานตรัตน์ (สนามงู) และสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกองทัพอากาศ โดยมองว่าสิ่งที่เป็นสวัสดิการทหารต้องไปอยู่ในความดูแลของรัฐบาลนั้น
พล.อ.อ. พันธ์ภักดี กล่าวว่า ในส่วนของสนามกอล์ฟกานตรัตน์ได้รับการตรวจสอบจากองค์กรการบินระหว่างประเทศ (ICAO) ว่า ถ้ามีสนามกอล์ฟบริเวณนั้นจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งก็มีข้อกำหนดต่างๆ มา กองทัพฯ ก็ทำทุกอย่างตามข้อปฏิบัติ
ทั้งนี้ ใครที่จะเข้าไปใช้บริการก็ต้องมีการลงทะเบียน ตนยืนยันว่ามีการควบคุมได้และยังไม่มีพื้นที่ส่วนไหนของสนามกอล์ฟไปกระทบรันเวย์สนามบิน เพราะเราระมัดระวังที่สุด ปัจจุบันผู้ที่ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นข้าราชการที่เกษียณอายุไปใช้ออกกำลังกายและเล่นกีฬา ซึ่งเป็นกิจการภายใน แต่คนภายนอกก็เข้ามาใช้บริการได้ไม่ต่างจากสนามกอล์ฟอื่นๆ แต่สนามกอล์ฟกานตรัตน์จะมีข้อแตกต่างคนที่เข้ามาใช้บริการจะต้องลงทะเบียนตามข้อกำหนดของ ICAO
“ยอมรับว่าเป็นห่วงส่วนของสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ เพราะหากต้องมีการส่งคืนรัฐจะมีคนตกงาน 2,000 คน ก็ต้องหางานอื่นมารองรับคนเหล่านี้” พล.อ.อ. พันธ์ภักดี กล่าว
ส่วนกรณีที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอให้กองทัพอากาศเปิดถนนกองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ ให้ประชาชนใช้บริการเพื่อแก้ปัญหารถติด พล.อ.อ. พันธ์ภักดี กล่าวว่า กองทัพฯ กำลังหาวิธีจัดการอยู่ โดยจะดำเนินการอย่างรวดเร็ว
ซึ่งในกองบิน 41 มีเครื่องบินทางยุทธวิธีและมีการติดตั้งระบบอาวุธ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ชั้นความลับสูงและเขตพระราชฐานที่ต้องให้การรักษาความปลอดภัยสูงสุด
ฉะนั้นหากมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีมาทดแทน ไม่ว่าจะเป็นการทำแนวรั้วตลอดแนวไม่ให้ออกนอกเส้นทาง หรือระบบกล้องวงจรปิดที่สามารถตรวจจับใบหน้าและทะเบียนรถได้ ซึ่งได้มีการหารือกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว โดยบางฐานข้อมูลก็ยินดีให้กับกองทัพอากาศ ซึ่งถือเป็นการคัดกรอง
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะผ่านเส้นทางนี้จะต้องลงทะเบียนทำประวัติเช่นเดียวกับการผ่านเส้นทางกองบิน 6 ดอนเมือง ที่เชื่อมระหว่างถนนพหลโยธินกับถนนวิภาวดี ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายไม่ได้เรียกเก็บ แต่ใช้ในลักษณะบริจาค โดยอาจเก็บปีละ 100 หรือ 200 บาท แต่จะมีช่องหากใครไม่ประสงค์จะบริจาคก็สามารถทำได้
พล.อ.อ. พันธ์ภักดี ยอมรับว่า การเปิดเส้นทางดังกล่าวมีค่าใช้จ่าย เพราะมีเจ้าหน้าที่ต้องดูแลรักษาความปลอดภัย เปิด-ปิดระบบสัญญาณไฟจราจรภายใน มีการควบคุมความเร็วรถ รวมถึงเรื่องป้ายทะเบียน 50,000 ใบ
“เรากังวลเรื่องการเก็บเงินค่าผ่านทางซึ่งไม่ได้มากมายอะไร และยืนยันว่าเป็นการบริจาค ใครจะให้ก็ได้หรือไม่ให้ก็ได้ เอามาเป็นค่าใช้จ่ายและยังเป็นทุนการศึกษาของบุตรหลานข้าราชการ” พล.อ.อ. พันธ์ภักดี กล่าว