เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (22 มกราคม) ทีมวิจัย Watson AI จากมหาวิทยาลัย MIT และบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก IBM เผยแพร่งานวิจัยล่าสุดในหัวข้อ ‘Beyond AI Exposure’ ที่อาจเข้ามาลดความกังวลของแรงงานคนที่กำลังหวั่นว่าจะถูก AI (Artificial Intelligence) แทนที่ โดยงานวิจัยเผยข้อมูลว่า ต้นทุนการนำ AI ไปใช้ทำงานแทนมนุษย์อาจมีราคาที่สูงเกินกว่าที่นายจ้างจะอยากจ่าย ทำให้การจ้างมนุษย์ยังน่าดึงดูดกว่าก็เป็นได้
โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา กระแสการเติบโตและการพัฒนาทางด้าน AI ของโลกใบนี้เป็นไปอย่างก้าวกระโดดอย่างมาก หลังการเปิดตัว ChatGPT ขึ้นมา ทำให้ผู้เชี่ยวชาญต่างลงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า AI จะเข้ามามีบทบาทและทดแทนการทำงานของมนุษย์ในอนาคตได้
ซึ่งงานวิจัยบางชิ้นถึงกับประเมินไว้เลยว่า งานที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ (2024) อาจถูกแทนที่ด้วย AI กว่าครึ่งหนึ่ง และมีเพียงอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือสำหรับมนุษย์
แต่จากงานวิจัย ‘Beyond AI Exposure’ กลับมองว่า งานวิจัยเกี่ยวกับ AI ในปัจจุบันมักพิจารณาแต่ด้านการพัฒนาและความก้าวหน้าของ AI แต่ยังไม่ได้พิจารณาในด้านความคุ้มทุนและความเป็นไปได้ของการนำ AI มาใช้ในเศรษฐกิจรูปแบบปัจจุบันเท่าไรนัก
เนื่องจากการพัฒนา AI ที่สามารถทำงานเฉพาะทางได้นั้นมีต้นทุนการเรียนรู้ พัฒนา และนำไปใช้งานจริงที่ค่อนข้างสูง ต่างจาก AI แบบ ChatGPT ที่เน้นการทำงานแบบทั่วไป (Generative AI) ที่อาจจะมีต้นทุนที่ถูกแต่ยังต่างจากการทำงานเฉพาะทางในหลายๆ ด้าน
จากงานวิจัยดังกล่าวยังประเมินอีกว่า ด้วยต้นทุนในปัจจุบัน มีงานเพียง 23% ที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจที่น่าดึงดูดพอที่จะทำแบบอัตโนมัติด้วย AI
แม้ผลวิจัยจะบอกเช่นนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแรงงานมนุษย์สามารถคลายความกังวลเรื่องนี้ได้แล้ว แต่เป็นการย้ำเตือนความจริงที่ว่า การเปลี่ยนผ่านจากมนุษย์สู่ AI ไม่ได้ใช้เวลาเพียงแค่ชั่วข้ามคืนเหมือนที่ทุกคนมอง
อ้างอิง: