ราคาวัตถุดิบที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในขนมหวานประเภทต่างๆ โดยเฉพาะไอศกรีมอย่างวานิลลาปรับตัวพุ่งสูงขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เจ้าของร้านขนม รวมถึงแบรนด์ไอศกรีมต่างๆ ปรับลดจำนวนรสชาติลง หลังมาดากัสการ์ เอเชียใต้ และทวีปแอฟริกา หนึ่งในพื้นที่ที่เป็นแหล่งเพาะปลูกวานิลลาที่ใหญ่ที่สุดในโลกกว่า 75% ได้รับความเสียหายจากพายุไซโคลนตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2017 ที่ผ่านมา
ราคาวานิลลาในอังกฤษอยู่ที่กิโลกรัมละประมาณ 600 เหรียญสหรัฐ (ราว 19,000 บาท) หรือเกือบเทียบเท่าทองคำแท่งบริสุทธิ์ 96.5% ที่ราคาขายอยู่ที่บาทละ 19,750 บาท (ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 5 พฤษภาคม 2561)
Snugburys หนึ่งในแบรนด์ไอศกรีมสัญชาติอังกฤษที่บริหารงานโดยพี่น้อง 3 คนเผยว่า กว่า 1 ใน 3 ของไอศกรีมกว่า 40 รสชาติภายในร้านมีวานิลลาเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ โดยในปีนี้เขาจะต้องจ่ายค่าวัตถุดิบแพงกว่าในปีที่ผ่านมาถึงเกือบ 30 เท่า
จูเลียน เกล นักวิเคราะห์สินค้าอุปโภคบริโภคเผยว่า “จากปริมาณสินค้าที่ลดลงในตลาดโลกทำให้ราคาวานิลลาปรับตัวสูงขึ้น กลายเป็นวัตถุดิบปรุงแต่งอาหารที่มีราคาแพงที่สุดรองจากหญ้าฝรั่น (Saffron) โดยแหล่งผลิตที่สำคัญอื่นๆ คือ แถบปาปัวนิวกินี อินเดีย และยูกันดา โดยมีตลาดส่งออกใหญ่อยู่ที่สหรัฐฯ”
ราคาที่ปรับตัวพุ่งสูงขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมขนมหวานหรือไอศกรีมเท่านั้น แต่ยังส่งแรงกระเพื่อมถึงธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องสำอาง รวมถึงน้ำหอมที่ใช้วานิลลาเป็นส่วนประกอบสำคัญอีกด้วย
อ้างอิง: