เป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้วที่บรรดาบริษัทเดินเรือขนส่งสินค้าเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือผ่านทะเลแดง เพื่อเลี่ยงเหตุโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตี โดยปรับไปใช้เส้นทางอ้อมแหลมกู๊ดโฮปในแอฟริกาใต้ ส่งผลให้อัตราค่าระวางเรือพุ่งสูงถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตู้คอนเทนเนอร์ 40 ฟุต
สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ขณะนี้เรือขนส่งสินค้าได้เลี่ยงเส้นทางเดินเรือทะเลแดงรวมมูลค่ากว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโจมตีจากกลุ่มฮูตี ท่ามกลางบรรดานักวิเคราะห์ตลาดโลจิสติกส์ที่มองว่า วิกฤตทะเลแดงครั้งนี้อาจทำให้อุตสาหกรรมการขนส่งโลกได้รับอานิสงส์ หลังเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีที่ผ่านมาหรือไม่
โดย อลัน เบร์ ซีอีโอของบริษัทโลจิสติกส์ OL USA กล่าวว่า อัตราค่าระวางเรือที่สูงขึ้นในปี 2567 จะเพิ่มกำไรหลายพันล้านดอลลาร์ให้กับกลุ่มบริษัทขนส่งทางทะเลที่เป็นเจ้าของและดำเนินการเรือที่รับผิดชอบในการจัดการสินค้าและขนส่งสินค้า VOCC หรือ Vessel Operating Common Carrier โดยมียักษ์ใหญ่อย่าง Maersk, Evergreen และ COSCO อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
“หากสถานการณ์ลากยาวไปอีก 3-6 เดือน กลุ่ม VOCC จะได้รับผลกำไร และพลิกกลับมามีรายได้ในระดับเดียวกับเมื่อปี 2565 อีกครั้ง โดยขณะนั้นอุตสาหกรรมการขนส่งทั่วโลกจะซบเซาจากแรงกดดันสต๊อกสินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่ผู้บริโภคจับจ่ายลดลง จึงทำให้หลายบริษัทล้มละลาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- WEALTH IN DEPTH: เกิดอะไรขึ้นที่ทะเลแดง เหตุโจมตีเรือบรรทุกสินค้าของกลุ่มกบฏฮูตีเขย่าซัพพลายเชนโลก และกำลังสะเทือนถึงไทย?
- บรรดาผู้ขนส่งทางเรือ ซึ่งรวมมูลค่าธุรกิจกว่า 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เร่งปรับเส้นทางเดินเรือเลี่ยงทะเลแดง
- Maersk ขนส่งสินค้าผ่านคลองสุเอซและทะเลแดงอีกครั้ง ส่งสัญญาณสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย
ประกอบกับก่อนที่จะเกิดเหตุโจมตีเรือในทะเลแดงก็พบว่า อัตราค่าระวางเรือโลกลดลงกว่าครึ่งจากปี 2565 ซึ่งเวลานั้นการขนส่งทั่วโลกเพิ่งผ่านพ้นช่วงโรคโควิด
นอกจากนี้บริษัทนายหน้าซื้อ-ขายหลักทรัพย์คาดการณ์ว่า อัตรากำไรปี 2567 (EBITDA) ของ Maersk จะสูงขึ้น 57% มูลค่า 9.3 พันล้านดอลลาร์ ส่วน Hapag Lloyd’s จะเพิ่มมากกว่า 80% เป็น 4.3 พันล้านดอลลาร์
“เราคาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยด้านการขนส่งสินค้าจะสิ้นสุดลงในปีนี้” Brashier ของ ITS Logistics กล่าว
ขณะที่บริษัท Jefferies ระบุว่า ปี 2566 อัตราค่าระวางเรือเส้นทางเอเชีย-ยุโรปเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,550 ดอลลาร์สหรัฐต่อ FEU (หรือความจุตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต) แต่ปัจจุบันอัตราพุ่งขึ้นเท่าตัวสู่กว่า 3,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อ FEU
จับตาช่วงตรุษจีน อัตราระวางเรือเอเชียพุ่งสูงขึ้นอีก?
ขณะที่ความตึงเครียดในทะเลแดงยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่สหรัฐฯ และอังกฤษเปิดฉากโจมตีเป้าหมายของกลุ่มฮูตีเมื่อวานนี้
ยังไม่รวมถึงช่วงตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงนี้ อัตราภาษีอาจสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญก่อนการปิดให้บริการในช่วงวันหยุด ซึ่งปกติแล้ววันหยุดตามประเพณีการขนส่งจากเอเชียมักจะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากบริษัทต่างๆ พยายามขนส่งสินค้าล่วงหน้าเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
รายงานข่าวระบุอีกว่า วิกฤตทะเลแดงอาจทำให้สายการผลิตตู้คอนเทนเนอร์กลับมาทำกำไรเป็นประวัติการณ์หลังโควิด แต่โดยรวมแล้วการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ยังเผชิญปัญหาอุปทานล้นตลาด
“ความต้องการในการขนส่งทางเรือยังคงอ่อนแอ แต่คงไม่ได้แย่เท่ากับช่วงโควิด เพราะช่วงเวลานั้นการขนส่งหยุดชะงักทั่วโลก”
อ้างอิง: