×

ฤดูกาลเลือกตั้งขั้นต้นสหรัฐฯ เริ่มแล้ว เจาะลึกสนามแรก ไอโอวา-นิวแฮมป์เชียร์ สองรัฐนี้สำคัญอย่างไร

14.01.2024
  • LOADING...

ในสหรัฐอเมริกานั้นจะมีระบบการคัดสรรผู้ที่จะเป็นตัวแทนของพรรคเพื่อลงชิงชัยเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งถือได้ว่ามีความเป็นประชาธิปไตยมากกว่าประเทศอื่นๆ มาก เพราะพรรคการเมืองยอมให้ประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมเป็นผู้ตัดสินผ่านระบบการเลือกตั้งขั้นต้น ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ที่มักจะให้ผู้มีอำนาจในพรรคหรือแค่สมาชิกพรรคกลุ่มเล็กๆ เป็นผู้ตัดสินใจ

 

ในบทความนี้เราจะไปเจาะลึกถึงระบบการเลือกตั้งขั้นต้นของสหรัฐอเมริกา รวมถึงความสำคัญของมลรัฐไอโอวาและนิวแฮมป์เชียร์ที่เป็นสนามเลือกตั้งแรกของรีพับลิกันและเดโมแครตด้วย

 

พัฒนาการของการเลือกตั้งขั้นต้น

 

แต่เดิมนั้นระบบการคัดสรรผู้ที่จะเป็นตัวแทนของพรรคเพื่อลงชิงชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ไม่ได้มีความเป็นประชาธิปไตยเหมือนทุกวันนี้ กล่าวคือ การเลือกผู้แทนพรรคนั้นก็เป็นหน้าที่ของบรรดานักการเมืองและนายทุนของพรรค ซึ่งก็แน่นอนว่าย่อมเต็มไปด้วยการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน ถึงแม้ว่าในตอนนั้นจะมีการเลือกตั้งขั้นต้นในบางมลรัฐแล้ว แต่ผลการเลือกตั้งก็ไม่ได้มีความหมายในทางปฏิบัติแต่อย่างใด

 

จุดเปลี่ยนของระบบการเลือกตั้งขั้นต้นเริ่มขึ้นในปี 1968 ซึ่งในปีนั้นเป็นปีที่กระแสต่อต้านสงครามเวียดนามของหนุ่มสาวชาวอเมริกันได้มาถึงขีดสุด และหนุ่มสาวที่เป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครตก็ได้พยายามผลักดันให้นักการเมืองสายต่อต้านสงครามอย่าง ยูจีน แมคคาร์ธีย์ เป็นผู้แทนพรรคในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งแมคคาร์ธีย์ก็สามารถเอาชนะการเลือกตั้งขั้นต้นได้ในเกือบครึ่งหนึ่งของมลรัฐที่มีการเลือกตั้งขั้นต้นในปีนั้น อย่างไรก็ดี ผู้มีอิทธิพลและนายทุนของพรรคได้เลือกนักการเมืองสายนิยมสงครามอย่าง ฮูเบิร์ต ฮัมฟรีย์ (ที่ไม่ลงแข่งเลือกตั้งขั้นต้นเลยสักมลรัฐ) ให้เป็นผู้แทนพรรคแทน

 

ซึ่งผลจากการที่พรรคเลือกฮัมฟรีย์เหนือแมคคาร์ธีย์นั้นก็ทำให้ฐานเสียงคนหนุ่มสาวในพรรคไม่พอใจอย่างมาก เกิดความแตกแยกในพรรคจนนำไปสู่จลาจลในมหานครชิคาโกที่พรรคใช้เป็นสถานที่ประชุมใหญ่ของพรรค และนำไปสู่ความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับของฮัมฟรีย์ต่อผู้แทนพรรครีพับลิกันอย่าง ริชาร์ด นิกสัน ในการเลือกตั้งทั่วไป

 

ผลจากการพ่ายแพ้ครั้งนั้นทำให้พรรคเดโมแครตตระหนักได้ว่า การเลือกตัวแทนของพรรคเพื่อลงชิงชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีนั้นต้องยึดโยงกับประชาชน หากพรรคดึงดันเลือกตัวแทนที่ไม่เป็นที่ยอมรับของฐานเสียงของพรรค ก็จะนำไปสู่ความแตกแยกและความพ่ายแพ้อย่างกรณีของฮัมฟรีย์ และนี่ก็นำไปสู่การปฏิรูประบบการเลือกผู้แทนพรรคให้ต้องยึดโยงกับผลการเลือกตั้งในแต่ละมลรัฐ ซึ่งพรรครีพับลิกันก็เห็นบทเรียนเดียวกันนี้มาจากเดโมแครต และก็ได้ทำการปฏิรูปในช่วงเวลาเดียวกัน

 

เลือกตั้งสองรูปแบบ และไม่ได้เลือกตั้งพร้อมกันทั้งประเทศ

 

รูปแบบการเลือกตั้งขั้นต้นของสหรัฐฯ มีเอกลักษณ์อยู่สองอย่าง อย่างแรกคือ รูปแบบการลงคะแนน ซึ่งแบ่งเป็นการลงคะแนนผ่านการหย่อนบัตรเลือกตั้งในคูหาอย่างที่เราคุ้นเคย (ภาษาอังกฤษเรียกว่าการเลือกแบบไพรมารี – Primary) และแบบที่สองคือการลงคะแนนแบบเปิดเผยในห้องประชุม (ภาษาอังกฤษเรียกว่าการเลือกแบบคอคัส – Caucus)

 

อีกเอกลักษณ์ที่สำคัญยิ่งกว่าคือการที่แต่ละมลรัฐจะจัดการเลือกตั้งโดยกำหนดวันของตัวเองในปีปฏิทินที่มีการเลือกตั้งใหญ่ (ซึ่งก็สะท้อนให้เห็นถึงระบอบการปกครองของสหรัฐฯ ที่ให้อิสระและอำนาจกับรัฐบาลมลรัฐอย่างมาก) ซึ่งนั่นก็แปลว่าผลการเลือกตั้งในแต่ละมลรัฐอาจจะมีความสำคัญไม่เท่ากัน 

 

ไอโอวาและนิวแฮมป์เชียร์

 

ในช่วงทศวรรษ 1970 ภายหลังการปฏิรูปใหม่ๆ นั้น ยังไม่มีใครรู้ว่าลำดับการเลือกตั้งของแต่มลรัฐนั้นสำคัญอย่างไร และมลรัฐไอโอวากับนิวแฮมป์เชียร์ก็บังเอิญได้เป็นมลรัฐแรกที่มีการเลือกตั้งขั้นต้นในรูปแบบไพรมารีและคอคัส 

 

นักการเมืองคนแรกที่เห็นความสำคัญของการชนะเลือกตั้งในมลรัฐไอโอวาคือ จิมมี คาร์เตอร์ ของเดโมแครต ในปี 1976 ซึ่งตอนนั้นเขาเป็นเพียงนักการเมืองโนเนมที่ไม่มีใครรู้จัก แต่เขาได้ใช้กลยุทธ์ฝังตัวอยู่ในมลรัฐไอโอวาเพื่อหาเสียงอย่างหามรุ่งหามค่ำ จนในที่สุดเขาก็ชนะคอคัสที่มลรัฐนี้ชนิดที่ไม่มีใครคาดถึง ทำให้สปอตไลต์ได้ฉายลงมาที่คาร์เตอร์ จนทำให้คนทั้งประเทศรู้จักเขา และทำให้คาร์เตอร์ชนะการเลือกตั้งขั้นต้นในอีก 29 มลรัฐ จนได้เป็นผู้แทนพรรคและประธานาธิบดีในที่สุด

 

อีกหนึ่งตัวอย่างของนักการเมืองที่ใช้กลยุทธ์ไอโอวาจนประสบความสำเร็จคือ บารัก โอบามา ของเดโมแครต ในปี 2008 จากชัยชนะที่ไอโอวาทำให้เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ท้าชิงตัวจริงของ ฮิลลารี คลินตัน ไม่ใช่เป็นแค่เพียงไม้ประดับ และทำให้เขาเบียดเอาชนะฮิลลารีจนได้เป็นผู้แทนพรรคในบั้นปลาย

 

Super Tuesday

 

ปฏิทินของการเลือกตั้งขั้นต้นในสมัยใหม่นั้นจะเริ่มที่ไอโอวา ต่อด้วยนิวแฮมป์เชียร์ และตามด้วยเนวาดา (ตัวแทนของมลรัฐทางตะวันตก) และเซาท์แคโรไลนา (ตัวแทนของมลรัฐภาคใต้) ก่อนที่จะตามมาด้วยสิ่งที่เรียกว่า Super Tuesday ในเดือนมีนาคม ซึ่งจะเป็นวันอังคารที่หลายๆ มลรัฐ (ส่วนใหญ่มากกว่า 10 มลรัฐขึ้นไป) ตัดสินใจจัดเลือกตั้งขั้นต้นพร้อมกัน ซึ่งทำให้คะแนนเสียงที่ผู้สมัครมีโอกาสจะคว้าได้จากวันอังคารนี้มีเป็นจำนวนมาก และผลแพ้-ชนะก็มักจะรู้กันใน Super Tuesday นี้

 

ในการเลือกตั้งขั้นต้นของฝั่งรีพับลิกันในปีนี้นั้น เป็นที่คาดหมายกันว่าอดีตประธานาธิบดีอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ น่าจะชนะการเลือกตั้งได้อย่างสบายๆ เพราะเขายังเป็นที่นิยมในระดับสูงมากในหมู่ฐานเสียงของพรรค อย่างไรก็ตาม ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา นักการเมืองที่มีภาพลักษณ์กลางกว่าอย่าง นิกกี ฮาเลย์ (อดีตผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา) ก็มีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งถ้าเธอแพ้ทรัมป์อย่างไม่ขาดลอยนักที่ไอโอวา (ที่เป็นเขตอนุรักษนิยมสูง) และเอาชนะทรัมป์ได้ทั้งที่นิวแฮมป์เชียร์ (ที่มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งสายกลางเป็นจำนวนมาก) และเซาท์แคโรไลนา (ซึ่งเธอเคยเป็นผู้ว่าการรัฐมาก่อน) ชัยชนะที่สองมลรัฐนี้ก็อาจเป็นสปริงบอร์ดให้เธอสร้างเซอร์ไพรส์ใน Super Tuesday ก็เป็นได้

 

เดโมแครตต้องการให้คนผิวดำมีเสียงที่ดังมากขึ้น

 

ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา มีเสียงวิจารณ์ถึงอภิสิทธิ์ของไอโอวาและนิวแฮมป์เชียร์ที่ได้สิทธิจัดการเลือกตั้งก่อนมลรัฐอื่นเสมอๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากทางพรรคเดโมแครต เพราะทั้งสองมลรัฐนี้เป็นมลรัฐของคนขาว ทำให้เสียงของคนดำที่เป็นฐานเสียงของพรรคนั้นถูกลดคุณค่าลงไป เพราะนักการเมืองต่างก็พยายามจะหาเสียงด้วยนโยบายที่ถูกใจคนขาวของสองมลรัฐนี้

 

ซึ่งในที่สุดแล้วพรรคเดโมแครตก็ได้เปลี่ยนปฏิทินเลือกตั้งด้วยการเอามลรัฐเซาท์แคโรไลนา (ซึ่งมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนดำจำนวนมาก) ขึ้นมาเป็นมลรัฐแรก ตัดไอโอวาออกจากมลรัฐเริ่มต้น และเพิ่มมิชิแกนกับจอร์เจียเข้ามาแทนที่ (สองมลรัฐนี้มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนดำจำนวนมากเช่นกัน) โดยเดิมทีพรรคเดโมแครตจะเปลี่ยนปฏิทินตั้งแต่การเลือกตั้งรอบนี้เลย แต่เนื่องจากการเลือกตั้งขั้นต้นรอบนี้ทางเดโมแครตไม่ได้แข่งกันอย่างจริงจัง เพราะมีประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่าง โจ ไบเดน ลงสมัครอยู่ เราจึงต้องไปดูกันที่การเลือกตั้งในรอบปี 2028 ว่าการเปลี่ยนแปลงลำดับมลรัฐที่จัดเลือกตั้งขั้นต้นของเดโมแครตนั้นจะส่งผลอย่างไร

 

สำหรับสนามแรกของการเลือกตั้งขั้นต้นของรีพับลิกันคือรัฐไอโอวา ซึ่งจะจัดรูปแบบคอคัสในวันที่ 15 มกราคม 

 

ส่วนสนามแรกของเดโมแครตคือรัฐนิวแฮมป์เชียร์ (ไพรมารี) จะจัดในวันที่ 23 มกราคม

 

ซึ่งเราจะได้เห็นคร่าวๆ ว่าผู้สมัครคนไหนมีแนวโน้มจะยืนระยะต่อไปได้ในสนามถัดๆ ไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 

เกาะติด การเลือกตั้งสหรัฐ 2024 ได้ที่ เว็บไซต์พิเศษ : เลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 และ Facebook : THE STANDARD

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X