มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียเปิดเผยว่า เอลิซาเบธ เมกิลล์ (Elizabeth Magill) อธิการบดีของมหาวิทยาลัย ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งแล้ววานนี้ (9 ธันวาคม) หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากท่าทีของเธอในการให้ปากคำต่อสภาคองเกรส กรณีกระแสการต่อต้านชาวยิวในมหาวิทยาลัย ซึ่งเธอปฏิเสธที่จะให้คำตอบว่าจะลงโทษนักศึกษาที่เรียกร้องให้มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวหรือไม่
โดยทางมหาวิทยาลัยยืนยันว่าการลาออกของเมกิลล์เป็นไปด้วยความสมัครใจ ซึ่งเธอจะยังอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะได้อธิการบดีคนใหม่เข้ารับหน้าที่แทน
ทั้งนี้ เมกิลล์พร้อมด้วยอธิการบดีคลอดีน เกย์ (Claudine Gay) จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และ แซลลี คอร์นบลูท (Sally Kornbluth) จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือ MIT ได้เข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา เกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของลัทธิต่อต้านชาวยิวในมหาวิทยาลัย ภายหลังสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสปะทุขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม
โดยอธิการบดีทั้ง 3 มหาวิทยาลัยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังพยายามปฏิบัติตามแนวทางปกป้องเสรีภาพในการพูด และปฏิเสธจะให้คำตอบที่แน่ชัด สำหรับคำถามของ เอลีซ สเตฟานิก (Elise Stefanik) สส. พรรครีพับลิกัน ที่ถามว่า “การเรียกร้องให้มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวจะเป็นการละเมิดหลักปฏิบัติเกี่ยวกับการกลั่นแกล้งและการคุกคามของทางมหาวิทยาลัยหรือไม่”
กระแสกดดันจากท่าทีดังกล่าวทำให้เมกิลล์และเกย์ต้องออกมาแสดงความขอโทษ ขณะที่กลุ่มนักศึกษา ครอบครัว และศิษย์เก่าชาวยิว กล่าวหามหาวิทยาลัยทั้ง 3 แห่งว่า ยอมรับลัทธิต่อต้านชาวยิว และไม่ยอมประณามการเรียกร้องให้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว
ทั้งนี้ สส. สเตฟานิก โพสต์ข้อความทาง X (Twitter) หลังการลาออกของเมกิลล์ โดยมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการจัดการกับลัทธิต่อต้านยิวที่บ่อนทำลายสถาบันอุดมศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดของสหรัฐฯ และการลาออกของเมกิลล์ถือเป็นการดำเนินการขั้นต่ำที่สุดของสิ่งที่จำเป็น และเรียกร้องให้อธิการบดีของฮาร์วาร์ดและ MIT ลาออกเช่นเดียวกัน
ภาพ: Jabin Botsford / The Washington Post via Getty Images
อ้างอิง: