คิกบ็อกซิ่งครั้งสุดท้ายของ บัวขาว ในไทย กับคู่ชกที่รอวันถอนแค้นนาน 5 ปี

วันเสาร์ที่ 2 ธันวาคมนี้ บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยซูเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งของไทย กำลังจะมีไฟต์สำคัญส่งท้ายปี 2023 กับ นายาเนช ไอมาน นักมวยชาวสเปนเชื้อสายคองโก ในศึก RWS: Legend of Rajadamnern ที่เวทีราชดำเนิน

โดยความพิเศษของไฟต์นี้คือการที่บัวขาวได้ลั่นวาจาไว้ว่า ไฟต์นี้ ‘อาจจะ’ เป็นการขึ้นชกในกติกาคิกบ็อกซิ่งบนสังเวียนประเทศไทยเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อออกเดินทางไปแสวงหาความท้าทายใหม่ๆ จากการต่อสู้ประเภทอื่น

นั่นหมายความว่าการต่อสู้บนเวทีราชดำเนินวันที่ 2 ธันวาคมนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายที่แฟนมวยชาวไทยจะได้เห็นบัวขาวชกในกติกาคิกบ็อกซิ่ง กับนักสู้ที่กำความแค้นมานาน 5 ปีเพื่อรอวันได้ล้างตากับบัวขาวในไฟต์นี้

เส้นทาง 33 ปีบนสังเวียนของ บัวขาว บัญชาเมฆ

บัวขาว บัญชาเมฆ ในสายตาแฟนมวยชาวไทยการันตีความเป็นนักมวยชั้นเลิศอย่างแน่นอน กับประสบการณ์บนสังเวียนผ้าใบที่มีมากกว่า 30 ปี หลังจากได้เริ่มชีวิตเข้าสู่เส้นทางอาชีพมวยไทยตั้งแต่อายุได้เพียง 8 ขวบ

นับจากวันนั้นถึงวันนี้ บัวขาวมีอายุเข้าหลัก 41 ปี พ่วงมาด้วยสถิติการชกที่นับอย่างเป็นทางการรวม 304 ไฟต์ ชนะ 264, แพ้ 25, เสมอ 15 และน็อกคู่แข่งมาแล้ว 81 ครั้ง (ข้อมูล ณ วันที่ 16 สิงหาคม 2566)

ระหว่างทางบัวขาวยังได้สร้างชื่อให้ตัวเองด้วยการเดินหน้าคว้าแชมป์เป็นกอบเป็นกำ (ชนิดที่ต้องนับกันเหนื่อย) โดยแชมป์รายการสำคัญๆ ประกอบด้วย

แชมป์ประเทศไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (ที่สนามมวยลุมพินี) ปี 2544
แชมป์ K-1 World MAX Champion ปี 2004 และ 2006 เข้าชิงฯ รอบสุดท้ายถึง 5 ครั้ง ได้แชมป์ 2 สมัย
แชมป์ Shoot Boxing 2010
S-Cup World Champion ปี 2553 คนไทยคนแรกและคนเดียวในประเทศไทย
แชมป์สภามวยไทยโลก ในพระบรมราชูปถัมภ์ WMC World Champion ปี 2549, 2552, 2554 และ 2557
แชมป์สภามวยโลก WBC Muaythai Diamond World Champion ปี 2557

พร้อมก่อตั้งค่ายมวยของตัวเองในชื่อ ‘ค่ายมวยบัญชาเมฆ’ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2559 หรือ 11 ปีที่แล้ว และปัจจุบันยังรับราชการทหารในตำแหน่งประจำแผนกกองการฝึก โรงเรียนการกำลังสำรอง ศูนย์การกำลังสำรอง หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน กองทัพบก

‘คิกบ็อกซิ่ง’ ครั้งสุดท้าย? ของตำนานมวยไทย

ด้วยวัยที่เข้าเลขหลัก 4 บวกกับความท้าทายและกระหายแชมป์ในวงการมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งนั้นมอดหายไปตามกาลเวลา เพราะในวัย 41 ปี บัวขาวไม่มีอะไรให้ต้องพิสูจน์อีกแล้วในวงการนี้

ย้อนกลับไป 2 ปีก่อน บัวขาวหวนคืนราชดำเนินครั้งแรกในรอบ 18 ปี เพื่อเผชิญหน้ากับ โคตะ มิอุระ นักสู้หนุ่มไฟแรงจากญี่ปุ่น แม้จะเป็นเพียงการชกโชว์แบบ Kickboxing Exhibition แต่บัวขาวก็จัดการน็อกคู่ชกหนุ่มลงได้ในยกสุดท้าย

หลังจากนั้นเป็นเวลาร่วม 2 ปี บัวขาวยังคงเดินสายขึ้นชกทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เขาได้ขึ้นชกที่ราชดำเนินอีกหลายครั้งกับ โอเล็กซานเดอร์ เยฟิเมนโก้, โยชิฮิโระ ซาโตะ และ ยาสุฮิโระ คิโดะ รวมถึงไฟต์ที่บินลัดฟ้าไปชกกับ หวังเหยียนหลง ที่กลายเป็นดราม่าหลังนักชกจีนขอเปลี่ยนกติกากลางคัน

มาจนถึงไฟต์ล่าสุด ไฟต์ที่บัวขาวยอมรับว่าเป็นหนึ่งในไฟต์ที่เขาลำบากใจที่สุดในอาชีพนักมวย นั่นคือการดวลกำปั้นกับเพื่อนซี้ แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ในศึก BKFC Thailand ครั้งที่ 5 ‘Legend of Siam’ ซึ่งผลออกมาเป็นบัวขาวชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์

เวลาผ่านไปบัวขาวยิ่งตกผลึกกับตัวเองว่า เขาไม่เหลือความท้าทายและสิ่งใดที่ต้องสู้เพื่อพิสูจน์ตัวอีกแล้ว หนึ่งในนั้นคือการชกแบบคิกบ็อกซิ่ง กติกาที่เขาออกไปสู้ ออกไปสร้างชื่อที่ญี่ปุ่น

บัวขาวประกาศอย่างชัดเจนว่า ถึงเวลาแล้วที่เขาอาจต้องอำลาคิกบ็อกซิ่ง เพื่อก้าวออกจาก Comfort Zone ของตัวเอง

“ยอมรับเลยว่ารู้สึกใจหายอยู่เหมือนกัน เพราะชกคิกบ็อกซิ่งที่ไหนมันก็ไม่อุ่นใจเท่ากับชกในประเทศไทยหรอก การได้เดินเปิดตัวออกมาหรือขึ้นสังเวียนท่ามกลางพี่น้องแฟนๆ ชาวไทย มันทำให้พี่บัวรู้สึกมีความสุขอยู่เสมอ

นี่อาจจะเป็น 9 นาทีสุดท้ายที่พี่บัวจะได้ขึ้นชกคิกบ็อกซิ่งให้แฟนๆ ที่ประเทศไทยได้ดูสดๆ บนเวที

เปิดสตอรี ‘พญาสิงโต’ คู่ชก…ที่รอวันสางแค้นมานาน 5 ปี

นายาเนช ไอมาน นักมวยชาวสเปนเชื้อสายคองโก คือคู่ชกไฟต์นี้ของบัวขาว

ชีวิตนายาเนชไม่เคยเรียบง่ายตั้งแต่ตอนที่เขายังเด็ก แม้จะเกิดที่ประเทศคองโก แต่ตามคำบอกเล่าจากปากของเขา ชีวิตครอบครัวของนายาเนชต้องระเหเร่ร่อนไปอยู่ฝรั่งเศส เบลเยียม และสเปน

ก่อนจะได้ร่ำเรียนวิชามวยไทย แรกเริ่มเขาไม่ได้เรียนเพราะใจรัก หากแต่เป็นการเรียนเพื่อนำมาปกป้องแม่และครอบครัว นายาเนชเล่าว่า ตั้งแต่วัยเด็กเขาเคยเห็นแม่ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายตอนอาศัยอยู่ในฝรั่งเศส และเขาเคยเข้าไปช่วยแล้ว แต่ในวันที่เขายังเด็กมาก บวกกับความไม่เป็นมวย สิ่งที่ได้รับจากการช่วยเหลือแม่คือถูกพ่อเลี้ยงทุบตีจนได้รับบาดเจ็บถึงขั้นซี่โครงหัก

หลังจากนั้นเขาเรียนและฝึกเรียนมวยไทยอย่างต่อเนื่อง และยึดมาเป็นอาชีพ ต่อยมวยเลี้ยงปากท้องให้ครอบครัว จนมีชื่อเสียงในวงการมาถึงปัจจุบัน

นักสู้เจ้าของฉายา ‘พญาสิงโต’ ชายผู้เป็นนักมวยไทยเบอร์ 2 ของรุ่นมิดเดิลเวต ของเวทีราชดำเนิน เคยปะมือกับบัวขาวมาแล้วเมื่อ 5 ปีที่แล้ว โดยไฟต์นั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 2018 ในศึก ‘คุนหลุนไฟต์ ครั้งที่ 65’ ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งครั้งนั้น นายาเนช ไอมาน เป็นฝ่ายพ่ายน็อกไปอย่างยับเยินในยกที่หนึ่ง

นั่นทำให้การเจอกันครั้งนี้ นายาเนชมีความหมายมั่นปั้นมือจะล้างตาให้สำเร็จ โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า ไฟต์นี้จะต่างไปจาก 5 ปีก่อนที่ตอนนั้นเขายังเป็นมวยรอง อีกทั้งไฟต์นี้เขามีเวลาเตรียมตัวมาอย่างดี ไม่เหมือนครั้งก่อนที่มีเวลาเตรียมตัวเพียง 10 วันก่อนขึ้นชก

จากไฟต์นั้นเขาได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญหน้ากับบัวขาว ผู้ซึ่งเป็นสุดยอดของวงการมวย จากไฟต์นั้นได้จุดประกายให้เขาอยากเป็นนักชกที่ดีขึ้น ซึ่งในที่สุดมันพาให้เขากลับมายืนอยู่เบื้องหน้าในฐานะคู่ชกคนสุดท้ายของกติกาคิกบ็อกซิ่งของบัวขาว

และวันนี้เขาเป็นนักสู้เต็มตัว ซ้อมแบบนักสู้ กินแบบนักสู้ หายใจมีชีวิตอยู่แบบนักสู้ และไฟต์นี้ตนจะสู้อย่างเต็มที่ เพราะไฟต์นี้จะทำให้ตนได้พิสูจน์ตัวต่อสายตาแฟนมวยชาวไทย บนเวทีที่ได้ชื่อว่าเป็นบ้านเกิดของมวยไทย ณ เวทีมวยราชดำเนินแห่งนี้

นอกจากนี้ นายาเนชยังย้ำด้วยว่า เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น เขาจะเป็นฝ่ายเดินเข้าใส่บัวขาวอย่างแน่นอน และขอให้บัวขาวยืนให้อยู่ในช่วง 3 นาทีแรก เพราะเขาจะเดินหน้าใส่อาวุธอย่างเต็มที่!

ใครที่ได้อ่านถึงตรงนี้น่าจะพอมองเห็นแล้วว่า ไฟต์ระหว่าง บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยเบอร์หนึ่งของไทย กับ นายาเนช ไอมาน นักชกพันธุ์ดุจากสเปน ถือเป็นไฟต์ที่น่าชมน่าเชียร์ส่งท้ายปี 2566 อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะยิ่งได้ชื่อเป็นไฟต์สุดท้ายของบัวขาวกับคิกบ็อกซิ่งบนเวทีราชดำเนิน ยิ่งควรค่าแก่การรับชมด้วยตาเนื้อของตัวเองอยู่ไม่น้อย

สำหรับศึก RWS: Legend of Rajadamnern จะมีขึ้นในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ณ เวทีมวยราชดำเนิน แฟนมวยสามารถหาซื้อบัตรได้ทาง https://bit.ly/rws2dec หรือสามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดได้ทางช่อง Workpoint (กดหมายเลข 23) และยังมีการถ่ายทอดสดทาง DAZN บริษัทสตรีมมิงคอนเทนต์กีฬายักษ์ใหญ่ โดยจะมีการถ่ายทอดสดไปกว่า 200 ประเทศในเขตการปกครองทั่วโลก

อ้างอิง: