World Bank คาดเศรษฐกิจไทยปีหน้าโตราว 3% เท่านั้น หากดิจิทัลวอลเล็ตผ่านกระตุ้น GDP จะโตเพิ่มอีก 1% แนะรัฐบาลยกเครื่องปฏิรูปเพื่อก้าวสู่ประเทศรายได้สูง พร้อมเผยจ่อหั่น GDP โลกปีหน้า เหลือโต 2.3% แนะรัฐบาลทั่วโลกเร่งจัดการ 3 ความท้าทายใหญ่ ‘ภูมิรัฐศาสตร์-โลกร้อน-เศรษฐกิจไร้สมดุล’
ดร.ฟาบริซิโอ ซาร์โคเน ผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2023 FUTURE READY THAILAND เศรษฐกิจไทยไลล่าอนาคต ในหัวข้อ ‘Thailand’s Economy in a Changing Global Landscape เศรษฐกิจไทยในภูมิทัศน์โลกที่ผันผวน’ ว่าขณะนี้ World Bank กำลังแก้ไขการประมาณการเศรษฐกิจโลก ที่จะเผยแพร่ในเดือนมกราคม ปี 2024 โดยคาดว่า GDP โลกจะโตเพียง 2.3% เท่านั้นในปี 2024 (ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการ) จากคาดการณ์ปัจจุบันที่ขยายตัว 2.4% นับเป็นหนึ่งในอัตราการฟื้นตัวที่ต่ำที่สุดในรอบ 50 ปี
โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากผลกระทบที่ล่าช้า และต่อเนื่องของภาวะการเงินที่ตึงตัว นโยบายควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูงในรอบหลายทศวรรษ เงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น และการค้าโลกที่ชะลอตัว
ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา (EMDE) คาดว่าจะชะลอตัวช้าลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับเส้นทางก่อนเกิดการระบาดของโควิด โดยเฉพาะในประเทศที่มีรายได้น้อยและเปราะบาง
ซาร์โคเนแนะว่า เพื่อให้เศรษฐกิจโลกกลับมาสู่เส้นทางปกติอีกครั้ง ผู้กำหนดนโยบายควรจะต้องยกระดับการปฏิรูปอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และฟื้นฟูความยั่งยืนทางการคลัง โดยจัดการกับความท้าทายและค้นหาโอกาส
ทำอย่างไรให้เศรษฐกิจไทยโต 5% ต่อปี-ก้าวเป็นประเทศรายได้สูง?
ซาร์โคเนยังเผยอีกว่า World Bank คาดการณ์ว่า GDP ไทยในปี 2024 จะขยายตัวประมาณ 3% ยังไม่รวมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งหากรวมเข้าไปคาดว่า GDP ไทยจะขยายตัวอีก 1% สู่ระดับ 4%
เพื่อกระตุ้นการลงทุนและการเติบโตของ GDP อย่างมีนัยสำคัญ เพื่อนำไปสู่การเป็นประเทศรายได้สูง (High-Income Status) ซาร์โคเนกล่าวว่า “ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง”
โดยธนาคารโลกยังได้จัดทำแบบจำลองการเติบโตในระยะยาว เพื่อค้นหาว่า ประเทศไทยจะบรรลุเป้าหมายการก้าวขึ้นเป็นประเทศรายได้สูง ภายในปี 2037 (พ.ศ. 2580) ได้อย่างไร โดยพบว่าไทยจะต้องรักษาการเติบโต GDP ให้สูงกว่า 5% ให้ได้
สำหรับสูตร (Recipe) ที่ทำให้เศรษฐกิจไทยโต 5% ในระยะยาวเพื่อก้าวสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูง คือการปฏิรูปโครงสร้าง การคิดล่วงหน้า การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ‘แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สามารถทำได้’ โดยให้ความสำคัญกับนโยบาย 6 ด้าน ดังนี้
- การให้ความสำคัญกับนวัตกรรม การวิจัย และพัฒนา (R&D)
- การยกระดับนโยบายที่ส่งเสริมการแข่งขัน
- การปรับปรุงการเรียนรู้ มุ่งผลลัพธ์ และยกระดับทักษะต่างๆ
- การก้าวเข้าสู่ห่วงโซ่การผลิตข้ามชาติ (Global Value Chains)
- การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะ และการลงทุนด้านน้ำและพลังงาน
- การเปิดประตูการบริการและการค้าโลก
“ประเทศไทยจำเป็นต้องเพิ่มระดับการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับระดับที่มีอยู่ในปัจจุบัน ขณะเดียวกันก็ต้องเพิ่มผลผลิต หรือมี GDP ต่อหัวของไทย โดยไทยจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับภาคเอกชนและประชาชน นั่นคือการพัฒนามนุษย์และการศึกษา”
พร้อมทั้งมองว่า ประเทศไทยแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ในตลาดเกิดใหม่ ซึ่งมีหนี้สาธารณะสูง เนื่องจากไทยยังมีพื้นที่ทางการคลังเพียงพอที่จะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
📌อัปเดตเทรนด์โลกกว่า 20+ Sessions ซื้อบัตรชมย้อนหลังได้ที่ https://bit.ly/TSEF2023ED
✅ ราคาพิเศษ! 2,500 บาท ถึง 31 ธันวาคม 2566 เท่านั้น
✅ รับชมออนไลน์ทุกที่ทั่วโลก
✅ ดูย้อนหลังนาน 6 เดือน (1 ธันวาคม 2566 – 31 พฤษภาคม 2567)
✅ สรุปเนื้อหา Visual Summary ทุกเวที
Media Partner
📌รับสรุปเนื้อหาทุกเวที 20+ Sessions
ซื้อบัตรชมย้อนหลังวันนี้ดูได้นานถึง 6 เดือน