ผลการศึกษาของหน่วยงานอิสระพบว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังเผชิญกับความไม่แน่นอน เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวช้า กระเทือนไปถึงความเชื่อมั่นภาคเอกชน
สำนักข่าว Bloomberg รายงานผลการศึกษาสำรวจของบรรดาหน่วยงานอิสระ ระบุว่า ตัวบ่งชี้ความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจและการขนส่งที่เผยแพร่โดย QuantCube Technology จากปารีส ควบคู่กับรายงานการสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยบริษัทที่ปรึกษา Morning Consult ในสหรัฐฯ ปรับตัวร่วงทั้งคู่ในเดือนตุลาคมเมื่อเทียบกับการสำรวจในเดือนกันยายนก่อนหน้า ส่วนแบบสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจส่วนตัวของสถาบัน Cheung Kong Graduate School of Business ก็ลดลงในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเช่นกัน
ผลการศึกษาสำรวจข้างต้น รวมกับข้อมูลรายงานของทางการจีน แสดงถึงการเติบโตของภาคการบริการที่อ่อนแอลง ขณะที่ราคาผู้บริโภคที่ลดลงในเดือนตุลาคม บ่งชี้ได้ว่าการฟื้นตัวของการบริโภคจีนยังต้องดิ้นรนอย่างหนักหน่วง แม้ว่ารัฐบาลจีนจะประกาศมาตรการกระตุ้นทางการคลังเพิ่มเติมก็ตาม โดยก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนกรกฎาคม บรรดาเจ้าหน้าที่อาวุโสในระดับบริหารของจีนได้ออกมาเตือนว่า การเติบโตของจีนในปัจจุบันตกอยู่ในแพตเทิร์นที่การเติบโตระยะสั้นจะตามมาด้วยภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
Allan Von Mehren หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนที่ Danske Bank กล่าวว่า ทางแบงก์กำลังดูการฟื้นตัวแบบซิกแซ็กซึ่งจำเป็นต้องมีการกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การเติบโตใกล้เคียงกับเป้าหมาย 5% ที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ โดยพื้นที่สำคัญที่ต้องใช้ความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจคือตลาดที่อยู่อาศัยและผู้บริโภค
ด้านข้อมูลเครดิตสินเชื่อของธนาคารกลางจีนที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (13 พฤศจิกายน) แสดงให้เห็นความต้องการสินเชื่อระยะยาวขององค์กรและครัวเรือนยังคงอยู่ในภาวะอ่อนแอในเดือนตุลาคม ขณะที่ภาวะการกู้ยืมของรัฐบาลก็เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์เช่นกัน แสดงให้เห็นว่าปัจจุบันเศรษฐกิจจีนขับเคลื่อนด้วยมาตรการกระตุ้นทางการคลังเป็นหลัก
รายงานระบุว่า แนวโน้มการบริโภคภายในของจีนสำหรับปีนี้ถือว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในฐานะผู้สนับสนุนหลักในการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ กระนั้น ตัวเลขดังกล่าวยังคงน่ากังวล ยกตัวอย่างเช่นในช่วงวันหยุดประจำชาติ Golden Week เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ยอดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อหัวยังต่ำกว่าก่อนโควิดระบาด
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ทางการจีนตัดสินในประกาศอัดฉีดเงินเป็นกรณีพิเศษมูลค่า 1 ล้านล้านหยวน ด้วยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อรองรับภาวะการฟื้นหลังน้ำท่วมใหญ่ และใช้เป็นทุนฟื้นฟูและการป้องกันภัยพิบัติในช่วงปลายเดือนตุลาคม กระนั้น นักวิเคราะห์มองว่า แม้ทางเลือกดังกล่าวสามารถช่วยสนับสนุนให้เกิด ‘การจ้างงาน’ ได้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะดันความต้องการบริโภคให้เติบโตมากขึ้นได้
ทั้งนี้ ทางการจีนมีกำหนดจะเปิดเผยข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการในวันพุธนี้ (15 พฤศจิกายน) ซึ่งครอบคลุมถึงยอดขายค้าปลีกในเดือนตุลาคมที่คาดว่าตัวชี้วัดหลายประการจะปรับตัวดีขึ้นจากเดือนกันยายน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเติบโตจากฐานต่ำกว่าปกติเพราะวิกฤตโควิดในช่วงเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว
นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs Group Inc. คาดว่ายอดค้าปลีกจะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 6.2% ต่อปีในเดือนตุลาคม จาก 5.5% ในเดือนก่อนหน้า แต่นั่นหมายถึงการลดลง 0.5% ตามเงื่อนไขรายปีแบบเดือนต่อเดือน โดยทีมนักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs ระบุว่า ด้วยดัชนี PMI ที่น่าผิดหวังบวกกับการส่งออกที่ลดลง ทำให้การเติบโตของโดยรวมของเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงในช่วงครึ่งแรกของไตรมาส 4 ปีนี้
อ้างอิง: