วานนี้ (24 ตุลาคม) เมื่อเวลา 19.30 น. ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. และรักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (รรท.ผบก.ทล.) พร้อมด้วย ภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และ ศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับเงินสินบนจากผู้ประกอบการโครงการก่อสร้างระบบประปา ในพื้นที่ตำบลตลุกดู่ อำเภอทัพทัน และตำบลหาดทนง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี
ศรชัยกล่าวว่า สำหรับสำนวนคดีหลังจากนี้ภายใน 30 วัน ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จ ก่อนส่งต่อให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาว่าจะรับสำนวนคดีดังกล่าวมาไต่สวนเอง หรือมอบให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ดำเนินการตามกฎหมายต่อ
ด้าน พล.ต.ต. จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตำรวจสอบสวนกลางให้ความสำคัญกับคดีนี้ ไม่ปล่อยผ่าน มีการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานจนแน่นหนามากพอที่จะขออำนาจศาลออกหมายจับดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา ส่วนแนวทางหลังจากนี้จะมีการขยายผลกวาดล้างผู้มีอิทธิพลให้หมดไปจากพื้นที่
ทั้งนี้ หลังจับกุมตนได้มีโอกาสพูดคุยกับ ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นพ่อตาของ วีระชาติ รัศมี นายกเทศบาลตลุกดู่ หนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งท่านเองก็ไม่ได้ว่าหรือขออะไร เข้าใจกระบวนการ ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย
พร้อมย้ำว่า ก่อนหน้านี้เคยเตือนแล้วว่าถ้าใครไม่หยุดก็ดูแลตัวเองกันไป ท่านก็เข้าใจ ส่วนการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดยังยืนกรานปฏิเสธ ขณะที่ในส่วนผู้เสียหายตอนนี้พบข้อมูลเพียงรายเดียว แต่หลังจากนี้ต้องขยายผลต่อเนื่องว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อถูกกระทำในลักษณะเดียวกันนี้เพิ่มเติมหรือไม่
พ.ต.อ. ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ปปป. กล่าวว่า สำหรับแผนประทุษกรรมนั้น จากแนวทางสืบสวนทราบว่า วีระชาติจะทำหน้าที่เป็นผู้สั่งการ สั่งให้ลูกน้องแบ่งหน้าที่กันทำ โดยมีธนภัสสร์กับกุลธัชทำหน้าที่คอยเกลี้ยกล่อมผู้เสียหาย ด้านมานพจะทำหน้าที่เจรจาเรื่องเงิน ส่วนยิ่งยงเป็นการจับกุมความผิดซึ่งหน้า หลังพบว่าเดินทางมาพร้อมกับมานพเพื่อมารับเงินจากผู้เสียหาย