กลุ่มเซ็นทรัลได้เปิดเผยแผนการลงทุนที่หลากหลายผ่าน Mixed-Use Development ครอบคลุมศูนย์การค้า ค้าปลีก โรงแรม อาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัย ซึ่งมีหลากหลายโครงการที่จะเกิดขึ้นในช่วงปี 2566-2567 ซึ่งครั้งนี้ความสนใจไปอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยการลงทุนรวม 3 พันล้านบาทสำหรับโรบินสันนครพนมและโรบินสันหนองคาย
“หนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของกลุ่มเซ็นทรัลคือ การขยายธุรกิจควบคู่ไปกับการยกระดับเมือง” ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวพร้อมขยายความว่า จะเน้นภูมิภาคที่มีศักยภาพภายในประเทศ รวมไปถึงการสร้างสรรค์ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีอัตลักษณ์ เพื่อกระตุ้นเมืองรองให้คึกคัก
สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นจะมีสร้างศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ จังหวัดนครพนม ตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองนครพนม ด้วยงบลงทุนกว่า 2 พันล้านบาท เตรียมเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4/67
ที่เลือกนครพนมเพราะมองว่าเป็นเมืองหน้าด่านการค้าและการท่องเที่ยวสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อีกทั้งตั้งอยู่บริเวณชายแดนติดเมืองท่าแขก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 รองรับการเดินทางและการขนส่งด้านการค้าและการท่องเที่ยว เชื่อมโยงระหว่างไทย สปป.ลาว เวียดนาม และภาคใต้ของจีน
ขณะเดียวกันนครพนมมีนักท่องเที่ยวประมาณ 1.5 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้ภาคท่องเที่ยวกว่า 2.2 พันล้านบาท
อีกแห่งคือศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ จังหวัดหนองคาย งบลงทุน 1 พันล้านบาท เตรียมเปิดตัวในปี 2567 โดยหนองคายเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เป็นเมืองชายแดนติดกับนครหลวงเวียงจันทน์และแขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว มีจุดผ่านแดนด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว และเป็นประตูการค้าสู่กลุ่มประเทศอินโดจีน ทำให้เป็นที่นิยมในการเดินทางมาจับจ่ายใช้สอยของประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ หนองคายมีมูลค่าการค้าชายแดนไทย-ลาว สูงสุดของไทย ปีละไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นล้านบาท มีนักท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้ภาคท่องเที่ยวกว่า 3.35 พันล้านบาท
“การลงทุนของกลุ่มเซ็นทรัลในนครพนมและหนองคายจะช่วยรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และผลักดันการขยายตัวทางการค้า การลงทุน การบริการ การท่องเที่ยว อีกทั้งส่งเสริมการเกษตรสมัยใหม่ สนับสนุนการจ้างงาน และยกระดับความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้นอย่างยั่งยืน”
นอกจากนี้ ในภาคกลางจะมีการเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครสวรรค์ (ไตรมาส 1/67) และศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม (ไตรมาส2/67) เป็นการขยายไปภาคตะวันตกโดยมีนครปฐมเป็นประตูเชื่อมไปยังจังหวัดใกล้เคียง คือ ราชบุรี และกาญจนบุรี เป็นศูนย์กลางของเมืองรองที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้โดยไม่ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
ในภาพรวมกลุ่มเซ็นทรัลคาดว่าภายใน 5 ปี จะมีพนักงานประจำรวมมากกว่า 100,000 คน และมีการจ้างงานมากกว่า 300,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ
อีกทั้งยังมีโครงการ ‘เซ็นทรัล ทำ’ ซึ่งในปี 2566 ตั้งเป้าสร้างรายได้ให้ชุมชน 1.8 พันล้านบาท ปลูกป่า 6,500 ไร่ รวมถึงโครงการจริงใจ ฟาร์มเมอร์ มาร์เก็ต เปิดพื้นที่ให้เกษตรกรท้องถิ่นนำพืชผักผลไม้ปลอดภัยและสินค้าขึ้นชื่อของชุมชนมาจำหน่ายในพื้นที่ของกลุ่มเซ็นทรัล
โดยปัจจุบันขยายสาขามากกว่า 32 สาขาทั่วไทย สนับสนุนเครือข่ายเกษตรกรกว่า 10,000 ครัวเรือน และสร้างรายได้ให้ชุมชน 255 ล้านบาท