×

กต. แจงอิสราเอล ยืนยันสถานการณ์ยังปลอดภัย ไม่ถึงขั้นอพยพ แต่หากประเทศใดต้องการ พร้อมอำนวยความสะดวก

โดย THE STANDARD TEAM
09.10.2023
  • LOADING...
อิสราเอล

วันนี้ (9 ตุลาคม) ที่กระทรวงการต่างประเทศ กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าในสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง ของประเทศอิสราเอล ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับการสั่งการจากคณะนายกรัฐมนตรี ให้จัดแถลงข่าวเพื่อให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์และความคืบหน้าวันละ 2 ครั้ง 2 เวลา รอบเช้า 11.00 น. และ 17.00 น. เพราะเวลาที่ประเทศไทยกับประเทศอิสราเอลห่างกันที่ 4 ชั่วโมง

 

ในประเด็นแรก พัฒนาการของสถานการณ์ในประเทศอิสราเอล ณ ขณะนี้ ยังมีความรุนแรง มีการโจมตีด้วยจรวดจากฉนวนกาซา ทางฝ่ายรัฐบาลของประเทศอิสราเอลพยายามกระชับพื้นที่ เรียกคืนพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีความพยายามที่จะช่วยเหลือผู้ถูกจับกุมและตัวประกัน ซึ่งขณะนี้มีรายงานว่าพลเรือนทั้งสองฝั่งคือฝั่งอิสราเอลและปาเลสไตน์มีผู้ได้รับผลกระทบบาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งนี้ มีการยืนยันแล้วว่ามีผู้ถูกจับตัวไปประมาณ 100 คน ในที่นี้มีทั้งคนอิสราเอล, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ยูเครน, จอร์เจีย และไทย

 

กาญจนากล่าวต่อว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอิสราเอล ออกประกาศให้อิสราเอลอยู่ในภาวะสงครามสถานการณ์พิเศษ กองทัพมีอำนาจในการสั่งการด้านความปลอดภัย และปิดสถานที่ต่างๆ ของพลเรือนตามความเหมาะสม กองทัพอิสราเอลประกาศจะอพยพทุกคนที่อยู่ใกล้พรมแดนฉนวนกาซา ซึ่งรวมถึงพี่น้องคนไทยด้วย ซึ่งเป็นประกาศตั้งแต่เมื่อวานนี้ (8 ตุลาคม) จะพยายามอพยพภายใน 24 ชั่วโมง และจะตรวจสอบให้แน่ใจ เนื่องจากสถานการณ์มีการพัฒนาไปอย่างมาก ทางการต้องแน่ใจว่าไม่มีผู้ก่อการร้ายในบริเวณต่างๆ ที่อพยพคน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของพลเรือน

 

ฝ่ายรัฐบาลของอิสราเอล กระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับคณะทูตผ่านทางออนไลน์อยู่ตลอดเวลา เพื่อรายงานความคืบหน้าทั้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเพื่อลดความกังวลของสถานทูตที่อยู่ในอิสราเอล ขณะนี้ทางท่าอากาศยานยังทำการตามปกติ มีเที่ยวบินเข้า-ออกประมาณร้อยละ 50 

 

ฝ่ายอิสราเอลยืนยันว่า อิสราเอลยังคงปลอดภัย ไม่ได้แนะนำให้มีการอพยพ แต่หากประเทศไหนประสงค์จะอพยพสามารถดำเนินการได้ โดยสามารถใช้เครื่องบินพาณิชย์ในการอพยพซึ่งจะมีความสะดวกและรวดเร็ว หากเป็นเครื่องบินของประเทศอื่นสามารถติดต่อกระทรวงการต่างประเทศเพื่อประสานงานได้

 

กาญจนากล่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด ถึงข้อมูลของชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติที่เสียชีวิตหรือถูกจับกุมเป็นตัวประกัน ซึ่งเรื่องนี้ขอให้หลายฝ่ายทำความเข้าใจเนื่องจากอยู่ในสภาวะการสู้รบ

 

ส่วนความคืบหน้าของคนไทยในพื้นที่ ที่สถานทูตได้รับแจ้งจากแรงงานและนายจ้างในพื้นที่เกี่ยวกับจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ถูกจับกุม สถานะผู้บาดเจ็บ 8 คน ได้รับการดูแลในโรงพยาบาลเรียบร้อย ในรายที่ไม่ได้รับการดูแลที่โรงพยาบาลมีการบาดเจ็บเล็กน้อยการจับกุมตัวประกัน ตัวเลขที่มีอยู่คือ 11 คน ในแง่ผู้เสียชีวิต สถานทูตแจ้งมาว่าเป็นข้อมูลที่รับแจ้งจากนายจ้าง จำนวนขณะนี้ที่มีคือ 12 คน ในส่วนของรายชื่อ กระทรวงฯ ต้องการแจ้งให้ครอบครัวรับทราบก่อน แต่ทั้งนี้ข้อมูลส่วนนี้ทางการอิสราเอลก็ยังไม่ได้รับการยืนยัน

 

ความพยายามในการอพยพคนไทยในอิสราเอล ได้อพยพคนไทยจากพื้นที่เสี่ยงภัยไปพื้นที่ที่ปลอดภัยแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาทางการอิสราเอลได้ประสานให้สถานทูตช่วยแปลข้อมูลข่าวสาร และกระจายไปถึงพี่น้องชาวไทยในพื้นที่ต่างๆ

 

สำหรับประเด็นการเดินทางกลับประเทศไทยของแรงงานไทย กาญจนากล่าวว่า มีการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวานนี้ มีการคุยเตรียมการในการใช้เครื่องบินกองทัพอากาศดำเนินภารกิจอพยพ ขั้นนี้ประเทศไทยได้เตรียมการไว้ก่อน ถ้าพร้อมที่จะเดินทางก็จะดำเนินการโดยคล่องแคล่วรวดเร็ว

 

ทั้งนี้ หากจะมีการอพยพเราจะต้องรู้วันและเส้นทาง เพื่อจะทำการขออนุญาตทำการบินเข้าน่านฟ้า ในส่วนของหนังสือเดินทางก็จะเป็นหนังสือเดินทางของราชการ ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าเพื่อให้การเดินทางรวดเร็ว

 

แต่อย่างไรก็ตามประเทศอิสราเอลยังคงยืนยันว่ายังไม่ต้องมีการอพยพ แต่หากประเทศไทยยืนยันว่าจะอพยพก็พร้อมจะอำนวยความสะดวก ซึ่งวันนี้สถานทูตได้ทำหนังสือเวียนเพื่อให้พี่น้องชาวไทยได้ระบุความประสงค์ว่าพร้อมที่จะกลับประเทศไทยหรือไม่ หรือจะอยู่ต่อที่ประเทศอิสราเอล เพราะบางคนไม่ได้อยู่ในพื้นที่ประสบภัย เรื่องนี้ก็อยู่ในส่วนของความสมัครใจ

 

ซึ่งสถานะการกรอกแบบฟอร์มเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมเวลา 21.00 น. มีผู้แสดงความประสงค์ขอกลับไทย 1,099 คน แจ้งว่ายังไม่ขอกลับประเทศไทยอีก 22 คน แต่ทั้งนี้ ข้อมูลพื้นฐานพี่น้องแรงงานไทยที่ทำงานที่อิสราเอลมีประมาณ 30,000 คน คนไทยที่อยู่บริเวณฉนวนกาซา 5,000 คน

 

จากการวิเคราะห์ของนักวิชาการให้ความเห็นว่า ปฏิบัติการครั้งนี้จะยืดเยื้อ หากประเทศไทยเตรียมการไว้ก่อนก็จะถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพื่อจะได้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ สถานทูตยืนยันว่าได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาครัฐและทุกฝ่ายรวมทั้งท้องถิ่น เพื่อที่จะหาหนทางช่วยเหลือแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบ และหลังจากนี้จะมีการประชุมของศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างต่อเนื่องทุกวัน

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X