วันนี้ (6 ตุลาคม) สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี โดยมี ธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือฯ เข้าร่วมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
สมศักดิ์กล่าวว่า ขอขอบคุณคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือฯ ที่เข้าร่วมการประชุมแบบเร่งด่วน เพราะเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุยิงในห้างสรรพสินค้า ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 1 ราย ชาวเมียนมา 1 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย
โดยต้องยอมรับเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีความมุ่งมั่นในการดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ถ้าเราไม่เร่งทำความเข้าใจและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ก็อาจจะทำให้เราเสียหาย วันนี้ตนจึงขอให้คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือฯ ทุกคนประชุมเป็นการเร่งด่วน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีกลับคืนมา ด้วยการเร่งแก้ไขเยียวยาเป็นหลักสำคัญ
สมศักดิ์กล่าวต่อว่า จากการประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือฯ ได้มีมติเห็นชอบเยียวยาผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย รายละ 1 ล้านบาท ส่วนกรณีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส รายละ 2 แสนบาท บาดเจ็บเล็กน้อย รายละ 1 แสนบาท โดยการพิจารณาได้เทียบเคียงกับเหตุการณ์ใกล้เคียงในอดีตที่ได้อนุมัติเยียวยาแล้ว เช่น เหตุกราดยิงจังหวัดนครราชสีมา เหตุร้ายแรงในจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งหลังคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือฯ มีมติ ก็พร้อมที่จะจ่ายเงินทันที
แต่ต้องรอทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะเป็นผู้สรุปเหตุการณ์ ส่งเอกสารสรุปรายละเอียดมาให้ก่อน โดยเงินช่วยเหลือของกองทุนฯ นี้ขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเงินเยียวยาของหน่วยงานอื่น เพราะเป็นเงินบริจาคของประชาชน
สมศักดิ์กล่าวอีกว่า อีกสถานการณ์ที่ต้องเร่งช่วยเหลือคือเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยจากประสบการณ์ของตน ช่วงนี้ฝนกำลังชุก ซึ่งจะหมดหลังช่วงลอยกระทง จึงส่งผลให้รัฐบาลต้องเร่งช่วยเหลือ โดยคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือฯ มีมติช่วยเหลือเบื้องต้นผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในจังหวัดสุโขทัย จำนวน 9 อำเภอ 67 ตำบล 383 หมู่บ้าน 4,322 ครัวเรือน
ซึ่งมีค่าอาหารจัดเลี้ยงวันละไม่เกิน 3 มื้อ มื้อละไม่เกิน 50 บาทต่อคน พร้อมมอบถุงยังชีพ จำนวน 2,000 ชุด เป็นเงินกว่า 1.4 ล้านบาท ส่วนที่จังหวัดร้อยเอ็ดมีประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 11 อำเภอ 5,980 ครัวเรือน มีมติช่วยเหลือค่าอาหารจัดเลี้ยงวันละไม่เกิน 3 มื้อ มื้อละไม่เกิน 50 บาทต่อคน พร้อมมอบถุงยังชีพ จำนวน 1,000 ชุด เป็นเงินกว่า 7 แสนบาท ส่วนภายหลังน้ำลดจะเร่งสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนเพื่อเร่งช่วยเหลือเยียวยาต่อไป
คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือฯ ยังมีมติช่วยเหลือผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยรวม 6 ราย ในจังหวัดสุโขทัย 5 ราย และจังหวัดยโสธร 1 ราย โดยมีค่าจัดการศพ รายละ 50,000 บาท เงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 30,000 บาท ส่วนบ้านประชาชนที่เสียหายจากน้ำท่วม มีเกณฑ์ช่วยเหลือเยียวยาคือ ค่าซ่อมแซมบ้าน เสียหายเกิน 70% ไม่เกินหลังละ 220,000 บาท เสียหาย 30-70% ไม่เกินหลังละ 70,000 บาท และเสียหายน้อยกว่า 30% ไม่เกินหลังละ 15,000 บาท
โดยถ้าหากมีประชาชนเสียชีวิตเพิ่มอีก 50,000 จะเร่งพิจารณาอย่างเร่งด่วน ส่วนหลังน้ำลดก็จะเร่งสำรวจความเสียหายจากบ้านเรือน นอกจากนี้ ตนได้เน้นย้ำในที่ประชุมว่า หากมีเหตุฉุกเฉินเพิ่มเติมต้องเตรียมพร้อมที่จะประชุมด่วนด้วย เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยบางครั้งอาจต้องประชุมแบบออนไลน์ เพื่อความรวดเร็วและให้ทันต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
มีรายงานว่าภายหลังการประชุม สมศักดิ์ได้ลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัยทันที เพื่อลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากเหตุน้ำท่วม พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับพี่น้องชาวสุโขทัย จำนวน 5 จุด รวมประชาชนกว่า 2,000 ครัวเรือน