วันนี้ (5 ตุลาคม) การประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มี พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม อรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ฉบับที่ .. พ.ศ. …. เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ขอแก้ไขชื่อคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ เป็นคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำ และแก้ไขเพิ่มเติมคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม เป็นคณะกรรมาธิการบริหารจัดการน้ำ
อรรถกรกล่าวถึงเหตุผลว่า โดยที่คณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติมีหน้าที่และอำนาจที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจและคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม มีหน้าที่และอำนาจที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ ทั้งมีหน้าที่และอำนาจซ้ำซ้อนกันในบางส่วน จึงเห็นควรให้เปลี่ยนชื่อและอำนาจของคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ เป็นคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สิน ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม รวมถึงรักษาและหาแหล่งรายได้เพิ่มให้กับประเทศและประชาชน
รวมถึงเปลี่ยนชื่อหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม เป็นคณะกรรมาธิการบริหารจัดการน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาระบบน้ำ ตลอดจนการส่งเสริม บำรุงรักษา และแก้ไขผลกระทบทางน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค เพื่อให้การปฏิบัติงานของคณะกรรมาธิการนี้มีประสิทธิภาพและมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันมากยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องเสนอและเปิดเผยข้อบังคับใหม่
อรรถกรกล่าวต่อไปว่า 2 คณะเดิมที่ตรงกับที่ตนเองจะเปลี่ยนนั้นมีเจตนารมณ์ที่ดี มีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอยู่แล้ว แต่ขณะนี้เราสามารถเสนอกรรมาธิการที่สามารถทำงานได้อย่างกว้างขวางและตอบโจทย์การแก้ไขให้กับประชาชน ซึ่งก่อนที่ตนเองจะเสนอให้มีการแก้ไขชื่อคณะกรรมาธิการทั้งสองคณะได้มีการพูดคุยกับหลายพรรคการเมือง ทั้งวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน และเห็นตรงกันว่าถึงเวลาที่ควรจะแก้ไขข้อบังคับในหมวดที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมาธิการ แต่การยกร่างทั้งฉบับนั้นอาจจะต้องใช้เวลาและอาจมีการแก้ไขในระยะอันใกล้นี้
“ขณะนี้กรรมาธิการสามัญทั้ง 35 คณะ ไม่มีคณะไหนเลยที่ระบุอย่างชัดเจนว่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในประเทศไทย ประชาชนในภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรม หรือความเป็นอยู่เราจำเป็นต้องใช้น้ำ ซึ่งเราก็ทราบว่ามีญัตติด่วน มีเริ่มน้ำแล้ง น้ำท่วม สิ่งที่ผมเสนอแก้ไขสองกรรมาธิการนี้จะสามารถตอบโจทย์ให้กับพี่น้องประชาชน และตอบโจทย์ให้กับคนทำงานอย่างพวกเราที่จะเสนอแนวคิดในการแก้ไขปัญหาน้ำอย่างเป็นระบบผ่านคณะกรรมาธิการ นำเสนอสู่ท่านประธาน และให้ที่ประชุมพิจารณาต่อไป โดยผมหวังว่าพวกเราทุกคนจะรับหลักการร่างแก้ไขของผมในการตั้งกรรมการต่อไป” อรรถกรกล่าว
ทั้งนี้มี สส. ลงมติรับหลักการ 366 เสียง เสนอให้มีการเปลี่ยนชื่อคณะกรรมาธิการ โดยมีการเสนอกรรมาธิการวิสามัญดังกล่าวจำนวน 20 คน กำหนดเวลาให้มีการประชุมภายใน 3 วัน ครบกำหนดในวันที่ 8 ตุลาคม พร้อมขอเสนอวาระการประชุมร่างข้อบังคับการประชุมเป็นเวลา 7 วัน