จากการวิจัยล่าสุดของ Allied Market Research ประเมินว่า มูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมบล็อกเชน (Blockchain) ที่ระดับ 792.3 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.77 หมื่นล้านบาท ในปี 2022 จะเติบโตไปแตะระดับ 79,200 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.77 ล้านล้านบาท ภายในปี 2032 คิดเป็นอัตราการเติบโตทบต้น (CAGR) ที่ระดับ 60.5% ต่อปี
ในรายงานดังกล่าวชี้ว่า การแพร่ระบาดของโควิดในช่วงปี 2020 ทำให้อุตสาหกรรมการเงินแบบดั้งเดิมต้องมองหาว่า รูปแบบการดำเนินการแบบใดที่ทำให้มีต้นทุนต่ำที่สุดและสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งบล็อกเชนดูเหมือนจะตอบโจทย์เหล่านั้นได้
โดยในอุตสาหกรรมบล็อกเชนนั้นมีการนำไปใช้หลักๆ อยู่สองส่วนด้วยกัน ได้แก่ การโอนระหว่างประเทศ (Cross Border) และการซื้อ-ขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี (Trading) ที่มีการเติบโตจากผู้ใช้งานตั้งแต่ในระหว่างรายบุคคล, บริษัท, ร้านค้า และอุตสาหกรรม เป็นต้น
จากการศึกษาของ Allied Market Research พบว่า แนวโน้มของการโอนเงินข้ามประเทศ (Cross Border) ผ่านบล็อกเชนก็กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เนื่องจากผู้ใช้งานต่างมองหาทางเลือกในการโอนเงินกลับประเทศของตนเองด้วยวิธีที่ประหยัดที่สุด
ในขณะที่งานวิจัยจากเครือข่ายบล็อกเชน Ripple Network พบว่า การโอนเงินผ่านเครือข่ายบล็อกเชนจะทำให้สถาบันการเงินประหยัดค่าธรรมเนียมไปกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.5 แสนล้านบาทภายในปี 2030
ไม่เพียงเท่านั้น มากกว่า 50% ของผู้ตอบแบบสอบถามของ Allied Market Research ยังมองว่า การเข้ามาช่วยประหยัดต้นทุนการทำธุรกรรมคือประโยชน์หลักของคริปโตหรือเครือข่ายบล็อกเชน
อ้างอิง: