วันนี้ (2 ตุลาคม) ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ชั้น 1 เมืองทองธานี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานพิธีเปิดโครงการประชุมสัมมนาการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งการดำเนินการอย่างจริงจังในการผลักดันภาครัฐและเอกชนรับมือกับความท้าทายต่างๆ ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในระยะสั้นรัฐบาลจะให้ความสำคัญเร่งด่วนกับการฟื้นรายได้ ดูแลค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน เช่น การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 5.6 แสนล้านบาท กระตุ้นครบทั้งวงจรอุปสงค์และอุปทาน ซึ่งไม่ต้องห่วง การอัดฉีดเม็ดเงินนี้จะใช้ได้ในเดือนกุมภาพันธ์นี้แน่นอน รวมถึงผลักดันการท่องเที่ยวทั้งคนไทยและคนต่างชาติ การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำไปอยู่ที่ 400 บาทต่อวัน ต้องทำทันที รวมถึงลดราคาพลังงานและพักหนี้ให้กับประชาชน
เศรษฐากล่าวว่า ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเดินหน้าตั้งคณะกรรมการในการดำเนินการและจัดทำประชามติ เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุดและคืนอำนาจให้กับประชาชน ซึ่งมาตรการระยะสั้นทั้งหมดนี้จำเป็นจะต้องมีงบประมาณสนับสนุน ยืนยันจะมีความคุ้มค่าและเป็นการต่อชีวิตให้กับภาคธุรกิจและประชาชน เพื่อสร้างพลังทางเศรษฐกิจต่อไป และรัฐบาลต้องวางแผนหาเงินกลับมาทดแทนงบประมาณที่ใช้จ่ายในส่วนนี้ไป เพื่อรักษาระเบียบวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด
เศรษฐากล่าวอีกว่า ขณะที่ในระยะยาวรัฐบาลจะพยายามให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งการสร้างรายได้ การมอบโอกาส และการดูแลชีวิตอย่างยั่งยืน เช่น การจัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชน ซึ่งกองทัพบกมีความพร้อมในการร่วมมือที่จะดำเนินการหาพื้นที่ทำกินให้กับประชาชนด้วย รวมถึงการดูแลด้านความมั่นคง ต่อต้านภัยคุกคาม และการรับมือกับความท้าทาย การบริหารจัดการกำลังพลโดยลดกำลังพลในการประจำการให้น้อยลงแต่ต้องมีคุณภาพ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการเกณฑ์ทหารเป็นแบบสมัครใจ ให้กองทัพมีความเป็นสากลและเป็นมืออาชีพ เป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือประชาชน และนำสินทรัพย์ของกองทัพออกมาช่วยเหลือประชาชน ซึ่งมีการพูดคุยกันบ้างแล้ว
เศรษฐาย้ำด้วยว่า การดำเนินการของรัฐบาลจะต้องกำจัดข้าราชการที่ทำตัวเป็นนายประชาชนออกจากระบบ ซึ่งตนรับไม่ได้ ขณะเดียวกันเป้าหมายทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลตั้งไว้คือ GDP โตเฉลี่ย 5% ตลอด 4 ปี รายได้ขั้นต่ำ 600 บาท ภายในปี 2570 ขณะที่เป้าหมายทางสังคมต้องทำให้ประชาชนมีชีวิตที่เป็นสุขและมีสวัสดิการที่เหมาะสม และขอให้เปิดใจรับฟังเสียงของประชาชนเพื่อนำไปปรับปรุง ยืนยันการดำเนินการของรัฐบาลจะรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด และใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชน
พร้อมเน้นย้ำว่า การจัดทำงบประมาณต้องเป็นไปตามนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน ทำอย่างบูรณาการ ลดความซ้ำซ้อน ทำอย่างมีประสิทธิภาพ รักษาวินัยการเงินการคลัง ทำอย่างมีตัวชี้วัดและมีเป้าหมาย และทำให้ครบทุกแหล่งเงินทุน โดยจะให้ทุกหน่วยงานจัดทำแผนงบประมาณและส่งให้สำนักงบประมาณภายในวันที่ 6 ตุลาคมนี้