เสร็จสิ้นไปที่เรียบร้อยสำหรับ Apple Event ภายใต้ธีม Wonderlust ซึ่งจัดขึ้นที่ Apple Park สำนักงานใหญ่ของ Apple ในเมืองคูเปอร์ติโน แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา วันที่ 12 กันยายน เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
หากถามว่างานครั้งนี้น่าตื่นเต้นไหม? คงจะตอบได้ไม่เต็มปาก เพราะผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวในครั้งนี้ล้วนใกล้เคียงกับข่าวลือที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แทบทั้งสิ้น และแม้จะไม่ได้เรียกเสียง ‘ฮือฮา’ จากสเปกที่ปรับปรุงไม่มากนัก แต่สำหรับแฟนพันธุ์แท้แล้ว ไม่ว่า Apple จะเข็นอะไรออกมาขายเราก็พร้อมซื้อ!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- iPhone 15 พอร์ต USB-C ใช้สายแบบถัก กับราคาที่ ‘แพงขึ้น’ และ Apple Watch Series 9 สีชมพู ข่าวลือที่อาจได้เห็นใน Apple Event 12 ก.ย. นี้
- iPhone ก็เหมือนรถยนต์ตรงที่ขายต่อก็ยังได้ราคาดี! นักวิเคราะห์มอง แม้รุ่นใหม่จะ ‘แพงขึ้น’ แต่ลูกค้าก็พร้อมซื้อ
- สื่ออเมริกาตกใจ ‘iPhone 14’ ไม่ขึ้นราคา แต่ไม่ใช่ในไทยที่รุ่นเริ่มต้นเพิ่มขึ้น ‘อย่างน้อย 2,000 บาท’ แถมแพงกว่าญี่ปุ่นทั้งที่เงินเยนอ่อนค่ากว่ามาก
THE STANDARD WEALTH สรุปผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้เปิดตัวทั้งหมดไว้ตรงนี้แล้ว!
iPhone 15 Pro และ Pro Max มาพร้อมวัสดุไทเทเนียม ส่วนราคายัง ‘เท่าเดิม’
- iPhone 15 โมเดลท็อปมาให้เลือกกันถึง 2 โมเดลเช่นเคย คือ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max โดยในรุ่นท็อปสุดยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นชื่อ Ultra
- ครั้งแรกของ iPhone ที่ใช้ไทเทเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ โดยมีขนาดจอภาพให้เลือกที่ 6.1 และ 6.7 นิ้ว
- ปุ่มแอ็กชันแบบใหม่จะทำหน้าที่แทนสวิตช์ จากที่ใช้ในการสลับเปิด-ปิดเสียง ต่อไปจะสั่งให้เปิดกล้องหรือไฟฉายได้ทันที
- ใช้ชิป A17 Pro ซึ่งเป็นชิป 3 นาโนเมตร ทำงานเร็วขึ้นสูงสุด 10% ส่วน GPU ทำงานเร็วขึ้นสูงสุด 20%
- มาพร้อมพอร์ต USB-C เป๊ะตามข่าวลือ โดยเป็น USB 3 ซึ่งให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 10 กิกะบิตต่อวินาที หรือเร็วขึ้นกว่าที่ผ่านมาถึง 20 เท่า
- ส่วนกล้อง Apple บอกว่ามีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทำงานร่วมกันจนเทียบเท่าเลนส์ระดับโปร 7 ตัว กล้องหลักมีความละเอียด 48MP
- มีให้เลือก 4 สีคือ สีไทเทเนียมดำ ไทเทเนียมขาว ไทเทเนียมน้ำเงิน และไทเทเนียมธรรมชาติ
- ราคายังคงเท่ากับรุ่นก่อน โดย iPhone 15 Pro มีราคาเริ่มต้นที่ 41,900 บาท ส่วน Pro Max มีราคาเริ่มต้นที่ 48,900 บาท ที่ราคาสูงขึ้นเพราะมีการปรับความจุให้เริ่มต้นที่ 256GB
- ในไทยจะสามารถสั่งจองล่วงหน้าในวันศุกร์ที่ 15 กันยายน เวลา 19.00 น. และจะวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 22 กันยายน
- ตั้งแต่วันที่ 18 กันยายนเป็นต้นไป iCloud+ จะให้บริการ 2 แผนใหม่ ได้แก่ 6TB ในราคา 999 บาทต่อเดือน และ 12TB ในราคา 1,990 บาทต่อเดือน
iPhone 15 และ 15 Plus มี Dynamic Island แล้ว!
- iPhone 15 และ 15 Plus มีจอภาพให้เลือกทั้งขนาด 6.1 และ 6.7 นิ้ว และมาพร้อม Dynamic Island ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกใน iPhone 14
- จอให้ความสว่างสูงสุดเฉพาะจุดขณะอยู่กลางแจ้งยังได้ถึง 2,000 นิต หรือสว่างเป็น 2 เท่าของรุ่นก่อนหน้า
- กล้อง 24MP ยังมีการซูมคุณภาพออปติคัลได้ถึง 3 ระดับ ได้แก่ 0.5, 1 และ 2 เท่า ซึ่ง Apple บอกว่านี่นับเป็นครั้งแรกในระบบกล้องคู่ของ iPhone
- ใช้ชิป A16 Bionic ซึ่งเป็นชิปที่ถูกใช้ใน iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max มาก่อน และใช้พอร์ต USB‑C
- iPhone 15 และ 15 Plus มีให้เลือก 5 สีคือ สีชมพู เหลือง เขียว ฟ้า และดำ ราคาเริ่มต้นที่ 32,900 และ 37,900 บาท ตามลำดับ
- ในไทยจะสามารถสั่งจองล่วงหน้าในวันศุกร์ที่ 15 กันยายน เวลา 19.00 น. และจะวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 22 กันยายน
Apple Watch Series 9 มาพร้อม ‘สีชมพู’ และฟีเจอร์ใหม่ ‘แตะ 2 ครั้ง’
- Apple บอกว่า Apple Watch คือนาฬิกาที่ขายดีที่สุดในโลก
- ใช้ SiP รุ่น S9 ประมวลผลงานด้านการเรียนรู้ของระบบได้เร็วกว่า Apple Watch Series 8 สูงสุดถึง 2 เท่า และประหยัดพลังงาน ทำให้ใช้งานแบตเตอรี่ได้ 18 ชั่วโมงตลอดทั้งวัน
- สามารถควบคุมโดยใช้เพียงแค่มือเดียวและไม่ต้องแตะจอภาพด้วยคำสั่งนิ้ว ‘แตะ 2 ครั้ง’ ซึ่งสามารถแตะนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง 2 ครั้งด้วยมือที่สวมนาฬิกาเพื่อทำสิ่งที่ทำบ่อยๆ เช่น หยุดตัวจับเวลา เล่นหรือหยุดเพลงชั่วคราว หรือเลื่อนนาฬิกาปลุกได้
- ความสว่างสูงสุดของจอภาพ 2,000 นิต ซึ่งมากกว่า Series 8 ถึง 2 เท่า
- การใช้งาน Siri บางอย่างสามารถประมวลผลบนอุปกรณ์ได้เลยแม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต เช่น การเริ่มออกกำลังกายหรือตั้งตัวจับเวลา
- มีจำหน่ายในขนาด 41 และ 45 มม. ในสีสตาร์ไลท์ สีมิดไนท์ สีเงิน รุ่น (PRODUCT)RED และตัวเรือนอะลูมิเนียมสีชมพูใหม่ รวมถึงตัวเรือนสเตนเลสสตีลสีทอง สีเงิน และสีกราไฟต์
- ตัวเรือนอะลูมิเนียมทุกเรือนที่มีสายแบบ Sport Loop ใหม่ มีความเป็นกลางทางคาร์บอน
- Apple Watch SE มีจำหน่ายในตัวเรือนอะลูมิเนียมขนาด 40 และ 44 มม. และมีความเป็นกลางทางคาร์บอนเมื่อจับคู่กับสายแบบ Sport Loop ใหม่
- Apple Watch Hermès มีจำหน่ายในตัวเรือนสเตนเลสสตีลสีเงิน และสีดำสเปซแบล็ค และไม่มีสายหนังตามข่าวลือ
- Apple Watch Series 9 ราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท และ Apple Watch SE ราคาเริ่มต้นที่ 9,490 บาท โดยยังไม่ได้ระบุวันจำหน่ายในไทย
Apple Watch Ultra 2 สเปกใกล้เคียงเดิม เพิ่มเติมคือคำสั่งนิ้ว ‘แตะ 2 ครั้ง’
- ในแง่ของสเปกนั้นไม่ได้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยใช้ SiP รุ่น S9 เหมือน Apple Watch Series 9 และสามารถใช้ฟีเจอร์ใหม่ ‘แตะ 2 ครั้ง’
- แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือจอที่มีความสว่างได้สูงสุดถึง 3,000 นิต ซึ่งสว่างกว่า Apple Watch Ultra รุ่นแรกถึง 50%
- Modular Ultra หน้าปัดใหม่ ที่ใช้ประโยชน์จากหน้าจอขนาดใหญ่โดยใช้ขอบด้านนอกเพื่อนำเสนอข้อมูลแบบเรียลไทม์ รวมถึงวินาที ระดับความสูง หรือความลึก
- Apple Watch Ultra 2 มีให้ใช้ในขนาด 49 มม. และเป็นกลางทางคาร์บอนเมื่อจับคู่กับสายแบบ Trail Loop หรือ Alpine Loop แบบใหม่ ซึ่งมีวัสดุรีไซเคิลกว่า 30%
- สายแบบ Alpine Loop มีสีใหม่ให้เลือก (สีน้ำเงิน, สี Indigo, สีมะกอก), Trail Loop (สีส้ม/เบจ, สีเขียว/เทา, สีน้ำเงิน/ดำ) และ Ocean Band (สีน้ำเงิน, สีส้ม)
- ราคา 31,900 บาท โดยยังไม่ได้กำหนดวันวางขาย
ท้ายนี้ยังมีอัปเดตเล็กๆ ของ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ที่มีของใหม่คือการใช้พอร์ต USB-C เหมือนสินค้าอื่นๆ ส่วนที่เหลือเรียกได้ว่าเหมือนเดิมเด๊ะ!
ภาพ: Courtesy of Apple