นับตั้งแต่ราคาเพชรปรับตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว หลังจากนั้นก็ดูเหมือนราคาเพชรจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ราคาเพชรลดลงจากจุดสูงสุดถึง 18% หรือ 6.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเพชรธรรมชาติ 1 กะรัตที่มีคุณภาพดีราคาอยู่ที่ 6,700 ดอลลาร์ แต่ปัจจุบันเพชรเม็ดเดียวกันอาจจะขายในราคา 5,300 ดอลลาร์ และล่าสุด De Beers ผู้ค้าเพชรรายใหญ่ก็ประกาศลดราคาเพชรบางประเภทลงกว่า 40%
เกิดอะไรขึ้นกับตลาดเพชรในขณะนี้?
ส่วนสำคัญมาจากลูกค้ารายใหญ่ของตลาดเพชรคือชาวอเมริกันหันมาเลือกใช้แหวนหมั้นจากเพชรสังเคราะห์มากยิ่งขึ้น ซึ่งมีราคาถูกกว่า ผนวกกับความต้องการเพชรโดยรวมลดลงหลังการแพร่ระบาดที่คนอยู่กับบ้านและสนใจจับจ่ายซื้อของด้วยเงินจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เมื่อทุกอย่างกลับสู่สภาพปกติก็หันไปสนใจกิจกรรมอื่นๆ แทน รวมถึงสภาพเศรษฐกิจที่ทำให้การซื้อของฟุ่มเฟือยลดลง ซึ่งราคาเพชรที่ปรับตัวลดลงอย่างหนักคือเพชรขนาด 1-2 กะรัตที่นิยมใช้เป็นแหวนหมั้น โดยผู้บริโภคในกลุ่มนี้มีความอ่อนไหวต่อราคาอยู่แล้ว จึงหันไปเลือกใช้เพชรสังเคราะห์แทน
ก่อนหน้านี้มีสัญญาณบ่งบอกจากส่วนแบ่งการส่งออกเพชรจากอินเดียที่เป็นผู้ส่งออกเพชรเจียระไนกว่า 90% ของทั่วโลก โดยเพชรสังเคราะห์อยู่ที่ประมาณ 9% ของการส่งออกในเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบกับประมาณ 1% เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ส่วนยอดขายเพชรสังเคราะห์เมื่อเทียบกับเพชรธรรมชาติก็เพิ่มขึ้นอย่างมากจากในปี 2020 ที่ยอดขายเพียง 2.4% มาถึงปีนี้มียอดขายถึง 9.3% แล้ว
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าราคาแหวนหมั้นจะปรับตัวลดลง แต่จะส่งผลกระทบไปยังตลาดเพชรดิบมากกว่า และคำถามที่ตามมาก็คือ ราคาที่ปรับตัวลดลงของเพชรประเภทนี้จะถาวรหรือไม่ และจะส่งผลไปยังเพชรที่มีราคาแพงกว่าหรือเปล่า?
De Beers ได้ให้ความเห็นว่าเรื่องนี้คืออุปสงค์ที่ลดลงตามธรรมชาติ ซึ่งแหวนหมั้นที่ราคาถูกกว่ามีความเสี่ยงเป็นพิเศษ แต่เชื่อว่าจะไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างราคาตลาดเพชรทั้งหมด โดย De Beers ตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยการลดราคาเพชรประเภทที่เรียกว่า ‘Select Makeables’ หรือเพชรดิบระหว่าง 2-4 กะรัต ซึ่งเมื่อเจียระไนขนาดจะลดลงประมาณครึ่งหนึ่งและมีคุณภาพพอใช้ได้ โดยนิยมใช้เป็นเพชรเม็ดกลางสำหรับแหวนแต่งงาน โดยลดลงกว่า 40% ในปีที่ผ่านมา
ในเดือนมิถุนายน 2022 De Beers ตั้งราคาเพชร Select Makeables อยู่ที่ 1,400 ดอลลาร์ต่อกะรัต ส่วนเดือนกรกฎาคมปีนี้ ราคาลดลงเหลือประมาณ 850 ดอลลาร์ต่อกะรัต และมีโอกาสที่ราคาจะลดลงไปอีก
ในขณะเดียวกันเพชรสังเคราะห์ก็ประสบปัญหาเช่นกัน ด้วยราคาดิ่งลงอย่างมาก โดยเมื่อห้าปีที่แล้ว เพชรสังเคราะห์ขายในราคาต่ำกว่าเพชรธรรมชาติราวๆ 20% แต่ปัจจุบันลดลงเหลือประมาณ 80% เนื่องจากผู้ค้าปลีกกดดันให้ราคาลดลง ผนวกกับต้นทุนในการผลิตถูกลง ปริมาณเพชรสังเคราะห์ในตลาดจึงเพิ่มมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้ราคาลดลงไปอีก โดยตอนนี้ราคาเพชรสังเคราะห์เจียระไนในตลาดขายส่งลดลงมากกว่าครึ่งในปีนี้เพียงปีเดียว
ความจริงแล้ว De Beers ก็เริ่มขายเพชรสังเคราะห์ของตัวเองในปี 2018 โดยมีส่วนลดอย่างมากจากราคาเพชรปกติ เพื่อพยายามแยกความแตกต่างระหว่างเพชรทั้งสองประเภทนี้ออกจากกัน ซึ่งคาดว่าราคาของเพชรสังเคราะห์จะยังคงร่วงลงต่อไปจนสร้างส่วนต่างราคาที่กว้างถึงระดับที่ไม่สามารถแข่งขันกับการนำไปทำแหวนหมั้นได้เพราะราคาถูกเกินไป
สำหรับตลาดของนักสะสมเพื่อการลงทุนนิยมสะสมเพชรเม็ดใหญ่น้ำดีก็อาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม เพชรในตลาดรองมักจะมีราคาถูกกว่าเพชรในตลาดหลักราวๆ 10%
สถิติราคาประมูลอัญมณีในปี 2023
The Eternal Pink ราคาประมาณ 1.24 พันล้านบาท
The Eternal Pink ราคาประมาณ 1.24 พันล้านบาท
เพชรสีชมพูหายากน้ำหนัก 10.57 กะรัต ได้รับการประมูลที่ Sotheby’s New York ด้วยราคา 34.8 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 1.24 พันล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคาคาดหมายที่ 35 ล้านดอลลาร์
โดยเมื่อเดือนมีนาคม เพชรสีชมพูมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากอุปทานที่น้อยลงจากการปิดเหมือง Argyle ของออสเตรเลียในปี 2020 ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเพชรสีชมพูส่วนใหญ่ในโลก โดยราคาเฉลี่ยของเพชรสีเพิ่มขึ้น 30% ในเวลาเพียง 12 เดือนก่อนเดือนมิถุนายน 2021
Estrela De FURA ราคาประมาณ 1.24 พันล้านบาท
Estrela De FURA ราคาประมาณ 1.24 พันล้านบาท
ทับทิมน้ำหนัก 55.22 กะรัต ขายได้ในราคา 34.8 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.24 พันล้านบาท สูงกว่าราคาประเมินที่ 30 ล้านดอลลาร์ และยังเป็นเจ้าของสถิติอัญมณีสีที่มีค่าที่สุดเท่าที่เคยมีการประมูลอีกด้วย ทำลายสถิติแชมป์เก่า Sunrise Ruby ที่มีน้ำหนัก 25.59 กะรัต ขายในราคา 30.3 ล้านดอลลาร์ที่ Sotheby’s Geneva ในปี 2015 ทับทิม Estrela De FURA ขุดพบในโมซัมบิก เป็นทับทิมที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยนำมาออกประมูล
Light of Peace ราคาประมาณ 496 ล้านบาท
Light of Peace ราคาประมาณ 496 ล้านบาท
เพชรเจียระไนทรงลูกแพร์ น้ำหนัก 126.76 กะรัต ขายในราคา 13.635 ล้านดอลลาร์ โดยมีชื่อเดิมว่า Zale Light of Peace เคยเป็นของบริษัท Zale Corporation ซึ่งจัดการจัดแสดงเพชรเม็ดดังกล่าวโดยรายได้จากการขายตั๋วนั้นจัดตั้งเป็นกองทุนสนับสนุนสันติภาพ และรายได้ส่วนหนึ่งจากการประมูลครั้งนี้ยังนำไปบริจาคให้กับ UNHCR เพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ
Infinite Blue ราคาประมาณการ 925-1,300 ล้านบาท
Infinite Blue ราคาประมาณการ 925-1,300 ล้านบาท
Infinite Blue น้ำหนัก 11.28 กะรัต มาจากเหมือง Cullinan ของ Petra Diamonds ในแอฟริกาใต้ มีกำหนดขายในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ โดยถูกเจียระไนให้มีเลข 8 รวมไว้ในน้ำหนักกะรัต เพราะเป็นเลขมงคลในเอเชีย รวมทั้งเลข 8 ยังคล้ายสัญลักษณ์อินฟินิตี จนกลายเป็นที่มาของชื่อเพชรเม็ดนี้ โดย GIA ให้คะแนน Infinite Blue เป็นเพชรสีน้ำเงินเกรดสีที่สูงที่สุดที่มีเพียงประมาณ 1% เท่านั้น
อ้างอิง:
- https://www.businessoffashion.com/articles/retail/diamond-prices-are-in-free-fall-in-one-key-corner-of-the-market/?fbclid=IwAR1-yjM1hpW4P3ct1iKLotUoWYmrgQITKt5wmV5bKDvS5szp9XjIUZ-kQBE
- https://fortune.com/2023/09/03/diamond-demand-falling-lab-grown-stones-de-beers-cutting-cutting-prices/
- https://www.cnbc.com/2023/06/22/diamond-prices-have-fallen-18percent-from-their-peak-and-analysts-predict-more-pain.html
- https://robbreport.com/style/jewelry/pink-diamond-ruby-record-auction-sothebys-1234853829/