ราคา บมจ.แสนสิริ หรือ SIRI ระหว่างการซื้อขายวันนี้ (22 สิงหาคม) บวกทะยานทำนิวไฮในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ มาแตะที่ระดับ 2 บาท และปิดการซื้อขายภาคเช้าวันนี้ที่สูงสุดที่ 2 บาท
หลังจากที่ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นเสนอชื่อ เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 โดยระบุว่า เศรษฐาเป็นผู้เหมาะสม ไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม และเป็นผู้ที่พรรคเพื่อไทยได้เสนอรายชื่อผู้ที่สมควรได้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรค
โดยเศรษฐาเป็นอดีตประธานกรรมการบริหาร, กรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้ถือหุ้นของ บมจ.แสนสิริ ก่อนหน้านี้วันที่ 9 มีนาคม 2566 บมจ.แสนสิริ รายงานต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่าเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา เศรษฐาได้ทำรายการโอนหุ้นของ SIRI จำนวน 661 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 4.44% ให้กับ ชนัญดา ทวีสิน (บุตรที่บรรลุนิติภาวะแล้ว) โดยภายหลังการทำธุรกรรมครั้งนี้ ส่งผลให้เศรษฐาจะไม่ได้ถือหุ้น SIRI อีกต่อไป จากก่อนการทำรายการที่เคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 ของ SIRI
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า ฝ่ายวิเคราะห์คงประมาณการกำไรสุทธิของ SIRI ในปี 2567 ไว้ที่ 5.5 พันล้านบาท เพิ่ม 29% จากปี 2566 ซึ่งทำนิวไฮต่อเนื่องจากปี 2566 และยังมีโอกาส Upside ได้อีก มีคำแนะนำให้ ‘ซื้อ’ ให้ราคาเป้าหมายในปี 2567 ที่ 2.20 บาทต่อหุ้น โดยจุดเด่นคือการเปิดโครงการใหม่ตลาดบนซึ่งเป็นกลุ่มที่ชำนาญและสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี ช่วยชดเชยความกังวลต้นทุนการดำเนินงานและต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายที่สูงกว่ากลุ่ม
ส่วน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า SIRI รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด 77% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 2% จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการโอนสูงเป็น 8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาสก่อนหน้า มีการโอนโครงการบ้านแนวราบและคอนโดมิเนียมเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งมีการบันทึกกำไรจากการขายที่ดินก่อนภาษีที่ 502 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/66 ออกมาอ่อนเป็น 31.5% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจที่อยู่อาศัยลดลงเป็น 32%
โดยประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลรอบจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกของปี 2566 ที่ 0.1 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนปันผลสูงถึง 5.4% โดยจะ XD ในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ และจ่ายวันที่ 12 กันยายนนี้ คงคำแนะนำ ‘ซื้อ’ ที่ราคาพื้นฐาน 2.07 บาท