ปตท. ส่ง on-ion ขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ผนึก SC Asset เจาะกลุ่มลูกค้าที่อยู่อาศัย ตั้งเป้า 400 หัวจ่าย ในปี 2566 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปรับโซลูชันรองรับเทรนด์ซื้อบ้านในอนาคต หลังผู้บริโภคมองหา EV Charging Station ในโครงการ เป็นปัจจัยหลักสำคัญที่ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อบ้านและคอนโดมากขึ้น ขณะที่สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยระบุ ปีนี้ประเทศไทยมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่เปิดตัวรองรับดีมานด์เพิ่มขึ้นมากกว่า 4,600 แห่ง
รายงานข่าวระบุว่า เชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) พร้อมด้วย โทรณ หงศ์ลดารมภ์ Head of EV Charger Business บริษัท อรุณ พลัส จำกัด และ ดิเรก ตยาคี Head of Technology Solutions บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SC Asset) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาธุรกิจให้บริการสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ระหว่าง บริษัท อรุณ พลัส จำกัด และบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อส่งเสริมการใช้และให้บริการยานยนต์ไฟฟ้า ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้รถ EV เติมเต็มพลังงานสะอาดได้แบบไม่ต้องแวะรอชาร์จ
เชิดชัยระบุว่า บริษัท อรุณ พลัส จำกัด ภายใต้แบรนด์ ออน-ไอออน (on-ion) เร่งเดินหน้าขยายธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ในพื้นที่โครงการบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงาน โดยจับมือพันธมิตรผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรอย่าง SC Asset ติดตั้ง EV Charging Station ในเฟสแรก จำนวน 40 เครื่อง ภายใต้โครงการเรฟเฟอเรนซ์ (Reference) โค้บบ์ (COBE) และโครงการอื่นๆ โดยจะเริ่มโครงการแรกที่เรฟเฟอเรนซ์ สาทร-วงเวียนใหญ่ (Reference Sathorn-Wongwianyai) บนทำเลใกล้ใจกลางธุรกิจย่านสาทร พร้อมให้บริการช่วงต้นปี 2567 ตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัยที่สะดวกสบาย รองรับความต้องการของผู้ใช้ EV ในเมืองที่เพิ่มสูงขึ้น
“ปตท. มุ่งมั่นเพิ่มศักยภาพความพร้อมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า และเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานแห่งอนาคตอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมบริการครบวงจร ภายใต้แบรนด์ on-ion ให้ครอบคลุมครบทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ศูนย์การค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน ร้านอาหาร และพื้นที่โครงการที่อยู่อาศัยกว่า 400 หัวจ่าย ในปี 2566 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทย สู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ของกลุ่ม ปตท.” เชิดชัยกล่าว
ด้านดิเรกกล่าวเสริมว่า SC Asset ร่วมมือกับ on-ion ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า กับทางสถาบันนวัตกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มาตั้งแต่ปี 2563 นับว่าเป็นการเพิ่มศักยภาพในการร่วมมือให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และยังเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การพัฒนาสินค้าและบริการของ SC Asset ตามแนวคิด Human Centric ที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อค้นหาความต้องการและโซลูชันต่างๆ ด้านที่อยู่อาศัย ตั้งแต่การออกแบบ การก่อสร้าง และพัฒนานวัตกรรมให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคซึ่งเทรนด์ปัจจุบันที่มีแนวโน้มการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) มากขึ้น
Charging Station เทรนด์ EV ใหม่หนุนผู้บริโภคตัดสินใจซื้อบ้านและคอนโด
ดังนั้นหากอนาคตการมี EV Charging Station ในโครงการ จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักสำคัญที่ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อบ้านและคอนโด นอกจากจะเป็นประโยชน์ทางตรงที่ผู้บริโภคได้รับแล้ว การนำเทคโนโลยีนี้เข้ามายังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ทั้งนี้ โครงการของ SC Asset ที่มีการติดตั้ง EV Charging Station ลูกค้าจะสามารถสั่งชาร์จ ตรวจสอบสถานะการชาร์จ และชำระเงินผ่านทางรู้ใจแอป (RueJai App) ได้ทันที
ทางด้าน อุเทน สุปัตติ อุปนายกฝ่ายวิชาการและผู้แทนนายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวว่า ปัจจุบันยานยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความสนใจในวงกว้าง ไม่เพียงแค่ภาคครัวเรือน แต่ยังรวมถึงภาคอุตสาหกรรม เห็นได้ชัดจากการเปิดตัวสถานีชาร์จที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 4,600 แห่ง จากข้อมูลเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ภาครัฐได้ออกมาตรการสนับสนุน อาทิ ลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2% สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงเงินอุดหนุน 18,000 บาทต่อคันสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ