ในช่วงที่โลกการลงทุนเต็มไปด้วยความผันผวน การกระจายความเสี่ยง ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย (Asset Allocation) เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตลงทุนโดยรวมเป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนควรให้ความสำคัญ
สำหรับการทำ Asset Allocation นั้นนอกจากการแบ่งเงินลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ทั้งตราสารหนี้ หุ้น สินทรัพย์ทางเลือก เช่น สินค้าโภคภัณฑ์แล้ว การกระจายความเสี่ยงจากการที่เงินลงทุนกระจุกตัวอยู่แต่ในประเทศก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจ เพราะหากลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายแต่สินทรัพย์นั้นกระจุกตัวอยู่ในประเทศเดียว หากมีสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบเฉพาะประเทศนั้น พอร์ตการลงทุนก็จะได้รับผลกระทบไปเต็มๆ เพราะไม่มีการลงทุนในประเทศอื่นๆ เลย
ด้วยเหตุนี้เราจึงแนะนำว่าหากผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนได้ ก็ควรกระจายเงินลงทุนของตัวเองไปลงทุนในต่างประเทศบ้าง โดยนอกเหนือจากการไปลงทุนในต่างประเทศ โดยใช้เงินบาท (THB) ลงทุนผ่านกองทุนรวมในไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศแล้ว ผู้ลงทุนก็สามารถเลือกใช้เงินดอลลาร์ (USD) ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักของโลก ลงทุนในต่างประเทศได้ โดยวิธีนี้จะทำให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกลงทุนที่หลากหลาย สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินมากขึ้น
สำหรับสินทรัพย์ลงทุนที่น่าสนใจ ที่จะช่วยวางเกมรับมือตลาดผันผวนในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2566 ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้คุณภาพสูง (Rating AA ขึ้นไป) ซึ่งอยู่ในกลุ่มตราสารหนี้ หากที่ผ่านมาผู้ลงทุนมีการลงทุนหุ้นในสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับพอร์ตลงทุนโดยรวม และสูงกว่าระดับความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้ การลงทุนใหม่ในตราสารหนี้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนโดยรวมลงมาได้ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ สูงกว่าไทย และน่าจะยังอยู่ในระดับสูงเช่นนี้ไปอีกระยะ ดังนั้นการไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล รวมทั้งหุ้นกู้คุณภาพสูงในต่างประเทศ ก็น่าจะทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนที่น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม หากผู้ลงทุนยังกังวลเรื่องกำไรและขาดทุนจากการแลกเปลี่ยนเงิน เรามองว่าผู้ลงทุนสามารถตัดความกังวลใจเรื่องนี้ออกไปได้ด้วยการลงทุนด้วยเงินดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง ในกรณีที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินลงทุนกลับมาใช้ในเร็ววันนี้อยู่แล้ว หรือต้องการนำเงินดอลลาร์ไปใช้เพื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ในอนาคต เช่น ส่งบุตรหลานเรียนต่อต่างประเทศ เที่ยวต่างประเทศ เป็นต้น โดยเมื่อขายทำกำไรจากการลงทุนในสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์แล้ว อาจจะพักเงินต่อในกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market) ในต่างประเทศ ซึ่งมีโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจในช่วงอัตราดอกเบี้ยต่างประเทศอยู่ในระดับสูง
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะไปลงทุนด้วยสกุลเงินดอลลาร์ ขอฝากผู้ลงทุนไว้ว่า สิ่งสำคัญก็คือต้องรับความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนได้ และการไปลงทุนในต่างประเทศก็ยังมีความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นได้ไม่ต่างจากในไทย ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ลงทุนมีโอกาสขาดทุนหรือได้เงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ อีกทั้งก็ยังมีความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศกลับทิศทางเป็นขาลงอยู่ ดังนั้นแล้วอย่าลืมประเมินความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา และจัดพอร์ตลงทุน แบ่งเงินลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ โดยคำนึงถึงความสามารถยอมรับความเสี่ยงของตัวเองด้วย
คำเตือน:
- การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
- กองทุนที่มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนและไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
- สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SCB Call Center โทร. 0 2777 7777