วันนี้ (9 สิงหาคม) ที่รัฐสภา อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่า พรรคเพื่อไทยได้แถลงกับพรรคภูมิใจไทยแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (7 สิงหาคม) รวมเสียงเป็น 212 เสียง พร้อมทั้งมีเงื่อนไขอย่างชัดเจนแล้ว ซึ่งยังเป็นไปตามนั้น ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่มีความกังวล หลังจากที่ ภูมิธรรม เวชยชัย ให้สัมภาษณ์ว่า พร้อมที่จะขอโทษขอขมาพรรคก้าวไกล
“พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ต้องมีความน่าเชื่อถือสูงอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะนำพรรคอื่นๆ ได้อย่างไร อย่าไปกังวล และพี่น้องประชาชนก็ไม่ควรกังวล พรรคเพื่อไทยได้แถลงอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่มี MOU ของ 8 พรรคอีกต่อไปแล้ว จากนั้นจึงได้เชิญพรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล ในขณะที่เรามีการหารือกัน จะไม่ใช่ 141 หรือ 71 เสียงเท่านั้นแล้ว เราจะเริ่มต้นด้วยจำนวน 212 เสียง เพื่อให้เกิดความมั่นคงแข็งแกร่งขึ้น และให้ความมั่นใจกับพรรคร่วมรัฐบาล ทุกอย่างยังคงเป็นไปได้ด้วยดี” อนุทินกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคภูมิใจไทยในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลจะช่วยหาเสียงอย่างไรบ้าง อนุทินกล่าวว่า ก็ต้องช่วยกันเท่าที่แต่ละพรรคมีความสามารถ ซึ่งรวมอีก 6 พรรคที่มาร่วมแถลงในวันนี้ที่จะต้องช่วยกันร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลให้ได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลหรือไม่ หากพรรคก้าวไกลจะโหวตให้พรรคเพื่อไทย อนุทินกล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต เมื่อเราร่วมรัฐบาลกันแล้วเราต้องสนับสนุนกันให้มากที่สุด หากไม่มีใครทำผิดกฎหมาย ก็ต้องทำให้เกิดความมั่นคง มีเสถียรภาพทางการเมือง หากเราปฏิบัติกันแบบนี้มันก็คงไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไร หากเราปฏิบัติไม่ดีต่อให้เรามัดกันก็อยู่ไม่ได้
เมื่อถามว่าได้เสียง 238 เสียงแล้ว พรรคภูมิใจไทยควรช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงเพิ่มเติมหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยได้ร้องขอมาให้ช่วยหาเสียงหรือให้ช่วยทาบทาม ตนเองก็ยินดีให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว แต่หากพรรคเพื่อไทยไม่ได้ร้องขอมา ก็ให้พรรคเพื่อไทยได้ทำหน้าที่ในการนำไป แต่พรรคภูมิใจไทยพร้อมสนับสนุน หรือการเอาใจช่วยเราให้เต็ม 100% อยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เชื่อมั่นหรือไม่ว่าการโหวตนายกรัฐมนตรีจะจบที่พรรคเพื่อไทย อนุทินกล่าวว่า อยากให้เป็นเช่นนั้น ความกังวลของ สว. เรื่องคุณสมบัติของ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น ต้องไปถาม สว. เอง ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย เมื่อเราร่วมรัฐบาลไปแล้ว ต้องอยู่บนสปิริตของการตัดสินใจ หากพรรคเพื่อไทยจะนำเสนอแคนดิเดตนายกฯ คนไหนที่อยู่ในบัญชีทั้ง 3 คน พรรคภูมิใจไทยก็สนับสนุนอยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่ออนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ รอให้พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลค่อยว่ากัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากเสนอชื่อเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากก่อนการเลือกตั้งพาดพิงกันหลายครั้ง ขณะนี้ติดใจหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ตอนที่เศรษฐากล่าวหาอะไรมา ตนเองได้ตอบโต้ไปหมดแล้ว ถือว่าจบกัน ซึ่งตนเองและเศรษฐารู้จักกันมานานกว่า 30 ปี มีเพื่อนที่รู้จักกัน ลูกๆ รู้จักกัน ซึ่งตนเองและเศรษฐาได้เคลียร์ใจกันไปบ้างแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าในวันโหวตนายกรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลจะสามารถรวมเสียงได้ถึง 375 เสียง อนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยจะสนับสนุนแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยอย่างเต็มที่ และมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยทั้ง 71 คนจะโหวตให้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อนุทินสามารถเป็นกาวใจระหว่าง สว. และพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ไม่มีปัญญาขนาดนั้น แต่เราต้องฟังความคิดเห็นว่าจะเป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย ข้อติติง ข้อเสนอแนะ หากเราไม่ใจร้อนและรับฟัง คิดวิเคราะห์ น่าจะมีทางออก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มี สส. บางคนอยากจะมา แต่พรรคไม่ให้มา จึงอยากมาร่วมรัฐบาลแค่บางคน บางกลุ่ม อนุทินกล่าวว่า ต้องถามพรรคเพื่อไทยว่าจะใช้รูปแบบไหนในการหาเสียง เช่น เรื่องพรรคก้าวไกล ก็เป็นสิทธิที่พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการ ตราบใดที่ไม่ได้ขัดแย้งกับข้อตกลงที่มีร่วมกันระหว่างภูมิใจไทยกับเพื่อไทยก็ต้องถือเป็นสิ่งที่ดี ลดความขัดแย้งให้ได้มากที่สุดก็ถือเป็นสิ่งที่ดี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีความคิดเห็นอย่างไร กรณีที่ สว. แสดงความคิดเห็นว่า จะโหวตให้นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย และ ‘พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐ อนุทินกล่าวว่า ขอบคุณในความหวังดี แต่ขอให้เป็นไปตามกลไก แค่นึกถึงตนเองก็รู้สึกดีใจแล้ว ขอให้เป็นไปตามความเหมาะสมและกระบวนการขั้นตอนตามระบบรัฐสภา