×

SCC – 2Q66: กำไรสุทธิสูงกว่าคาด เพราะกำไรพิเศษ

27.07.2023
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

 

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) รายงานกำไรสุทธิ 2Q66 แข็งแกร่งที่ 8.1 พันล้านบาท สูงกว่า INVX คาด 75% และสูงกว่า Consensus คาด 61% โดยเกิดจากกำไรพิเศษจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในบริษัทย่อยจำนวน 2.8 พันล้านบาท หากตัดรายการนี้ออกไปพบว่ากำไรปกติอยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท เป็นไปตามคาด รายการพิเศษใน 2Q66 คือกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในบริษัทย่อย 2.86 พันล้านบาท และขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ 1.84 พันล้านบาท

 

กำไรปกติ 2Q66 เพิ่มขึ้น 15.5%QoQ โดยเกิดจาก:

 

  1. ธุรกิจเคมิคอลส์ที่ดีขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ที่สูงขึ้น (ส่วนต่างราคาโพลีเอทิลีนความหนาแน่นสูง (HDPE) อยู่ที่ 443 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ใน 2Q66 เทียบกับ 396 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ใน 1Q66) และปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น 7.0%QoQ หลังจากกลับมาเดินเครื่องโรงงาน ROC อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตโอเลฟินส์ปรับเพิ่มขึ้นจาก 75-80% ใน 1Q66 สู่ 80-85% ใน 2Q66
  2. กำไรของ SCGP ที่เติบโต 21.7%QoQ เพราะต้นทุนลดลง และ
  3. รายได้เงินปันผลงวดครึ่งปีจาก Toyota & Kubota Thailand

 

สำหรับเงินปันผลงวด 1H66 SCC จะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 2.50 บาทต่อหุ้น จากผลการดำเนินงานงวด 1H66 ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 8 สิงหาคม 2566

 

กระทบอย่างไร:

 

วันที่ 27 กรกฎาคม ณ เวลา 12.30 น. ราคาหุ้น SCC ปรับเพิ่มขึ้น 0.63%DoD สู่ระดับ 320 บาท ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 0.77%DoD สู่ระดับ 1,536.35 จุด

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:

 

InnovestX Research คาดการณ์ถึงโมเมนตัมที่ดีขึ้นต่อเนื่องใน 3Q66 โดยได้รับการสนับสนุนจากปริมาณการขายที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังจากกลับมาเดินเครื่องโรงงานระยองโอเลฟินส์ (ROC) ท่ามกลางช่วงไฮซีซันของอุปสงค์สินค้าเคมีภัณฑ์โดยรวม นอกจากนี้ก็คาดว่ากำไรจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์จะปรับตัวดีขึ้นด้วยเช่นกัน

 

ทั้งนี้ ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2566 ลดลง 17% เพื่อสะท้อนอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ต่ำกว่าคาดของธุรกิจเคมิคอลส์ เนื่องจากอุปสงค์สินค้าเคมีภัณฑ์ฟื้นตัวช้า

 

กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำยังคงเรตติ้ง OUTPERFORM สำหรับ SCC ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ 357 บาทต่อหุ้น โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรในระยะกลางถึงระยะยาวของ SCC เนื่องจากโรงงานใหม่ ‘Long Son Petrochemical (LSP)’ (กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น +40%) จะเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในเดือนกันยายน 2566

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ การเปลี่ยนแปลงในด้านกำลังซื้อและต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงอุปทานเพิ่มเติมจำนวนมากที่จะเข้าสู่ตลาด

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising