การประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ 20 ประเทศ หรือ G20 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่สามารถบรรลุฉันทมติ ออกแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับประเด็นเรื่องลดการใช้น้ำมันหรือเชื้อเพลิงจากฟอสซิลร่วมกันได้ หลังจากที่สมาชิกบางส่วนซึ่งอยู่ในฐานะประเทศผู้ผลิตน้ำมันออกโรงคัดค้านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงดังกล่าว
รายงานระบุว่า ผลลัพธ์ของการประชุมดังกล่าวสร้างความไม่พอใจอย่างมากในหมู่นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญ นักรณรงค์เคลื่อนไหว ตลอดจนองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพยายามขับเคลื่อนเพื่อบรรเทาและลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน โดยสมาชิก G20 รวมกันคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 3 ใน 4 ของการปล่อยก๊าซทั่วโลก และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
ความพยายามอย่างต่อเนื่องของกลุ่มในการลดคาร์บอนเป็นสิ่งสำคัญในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก ซึ่งในปัจจุบันกำลังก่อให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรงในหลายประเทศทั่วโลก ตั้งแต่จีนไปจนถึงสหรัฐฯ ตอกย้ำให้เห็นถึงวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่
อย่างไรก็ตาม แทนที่จะได้ออกแถลงการณ์ร่วม ซึ่งหมายถึงการที่ชาติสมาชิกมีข้อตกลงที่สมบูรณ์ในทุกประเด็น ที่ประชุมกลุ่ม G20 ที่เมืองแบมโบลิม ในรัฐกัวชายฝั่งของอินเดีย กลับออกแถลงการณ์บทสรุปผู้บริหาร สะท้อนให้เห็นความไม่ลงรอยกันในประเด็นเรื่องการลดการผลิตพลังงานน้ำมัน และการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนให้ได้ 3 เท่าภายในปี 2030
R.K. Singh รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของอินเดีย กล่าวว่า G20 ได้ข้อตกลงร่วมกันอย่างสมบูรณ์ 22 หน้า จากทั้งหมด 29 หน้า ดังนั้นจึงไม่สามารถออกเป็นแถลงการณ์ร่วมได้
นอกจากนี้ ประเด็นที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ ยังหมายรวมถึงการเรียกร้องให้ประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหลายบรรลุเป้าหมายในการร่วมกันระดมเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี สำหรับการดำเนินการด้านสภาพอากาศในประเทศกำลังพัฒนาในช่วงปี 2020-2025 และคำอธิบายของสงครามในยูเครน
ขณะที่แหล่งข่าววงในซึ่งใกล้ชิดกับการประชุมกล่าวว่า การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลกลายเป็นประเด็นร้อนในการอภิปรายตลอดการประชุม โดยเจ้าหน้าที่ล้มเหลวในการบรรลุฉันทมติเกี่ยวกับการควบคุมการใช้น้ำมันที่ยังคง ‘ไม่ลดลง’ และโต้เถียงกันเกี่ยวกับภาษาที่ใช้อธิบายเส้นทางสู่การลดการปล่อยก๊าซ
รายงานระบุว่า ร่างแถลงการณ์ร่วมที่มีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (21 กรกฎาคม) เน้นให้สมาชิกให้ความสำคัญกับการเดินหน้าลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงโดยสอดคล้องกับ สถานการณ์ในประเทศที่แตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตาม ในบทสรุปของผู้บริหารเมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ (22 กรกฎาคม) กลับตัดประโยคดังกล่าวออกไป เนื่องจากสมาชิกแต่ละประเทศมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการลดการใช้น้ำมันและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องที่จะนำมาใช้จัดการกับข้อกังวลดังกล่าว
Singh รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานอินเดีย ชี้แจงในระหว่างการแถลงข่าวว่า บางประเทศสมาชิกต้องการใช้วิธีการดักจับก๊าซคาร์บอนแทนการลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยไม่ได้ระบุถึงชื่อประเทศที่แสดงความเห็นดังกล่าวแต่อย่างใด
รายงานระบุว่า ชาติสมาชิก G20 ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลรายใหญ่ คือ ซาอุดีอาระเบีย, รัสเซีย, จีน, แอฟริกาใต้ และอินโดนีเซีย ซึ่งที่ผ่านมาต่างก็แสดงจุดยืนต่อต้านเป้าหมายของการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน 3 เท่าภายใน 10 ปีนี้
อ้างอิง:
