เกิดอะไรขึ้น:
อัปเดตแนวโน้มธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีของ บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE) ภาพรวมนั้นเป็นบวก โดยผลประกอบการ 1Q66 คือจุดต่ำสุดหากดูจากตัวเลข TV Adex ในเดือนเมษายน (Bt5.3bn) และเดือนพฤษภาคม (Bt5.6bn) เห็นภาพการฟื้นตัวที่ชัดเจน เบื้องต้นคาดว่าเดือนมิถุนายนอาจจะใกล้เคียงเดือนพฤษภาคม ถ้าเป็นเช่นนี้ TV Adex 2Q66 น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ 20%QoQ ทำให้มองว่ากำไรสุทธิใน 2Q66 จะอยู่ที่ 115 ล้านบาท เติบโต 122.4%QoQ แต่ยังลดลง 35.8%YoY เนื่องจาก 2Q65 นั้นฐานกำไรค่อนข้างสูงด้วยรายได้จากเรื่อง F4 ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก
ในช่วง 2H66 นั้นผู้บริหารคาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจาก TV Adex ที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง HoH และ YoY โดยการฟื้นตัว YoY นั้นเป็นผลมาจาก 2H65 นั้น TV Adex ได้รับผลกระทบเชิงลบในประเด็นเรื่องเงินเฟ้อทำให้มีฐานที่ต่ำ ประกอบกับ 2H66 น่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนทางด้านการเมืองทำให้เม็ดเงินโฆษณาน่าจะยืนที่ระดับใกล้เคียง 2Q66 ได้
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้บริหารกังวลหลักๆ คือเรื่องความไม่แน่นอนทางด้านการเมือง รวมถึงครึ่งปีหลังบริษัทได้มีการเตรียมคอนเทนต์ที่น่าสนใจไว้หลายตัว เช่น ละคร รักซ่อนชู้ ซึ่งเป็นการทำร่วมกับบริษัทเกาหลี
ในส่วนของธุรกิจ Function Drink นั้นเป็นการ JV ของ 3 บริษัทคือ MASCOT (33%, เชี่ยวชาญทางด้านการคิดสูตรอาหารและเครื่องดื่ม), ONEE (33%, ด้านการโปรโมตสินค้า) และ NSL (33%, ด้านกระจายสินค้า) ONEE ใส่เงินลงทุนไป 20 ล้านบาท โดยปัจจุบันกระจายสินค้าไปครบ 7-Eleven ทุกสาขาแล้ว และคาดหวังรายได้ 2H23 ที่ 300 ล้านบาทและ Gross Margin ที่ 12-18% โดยผลตอบรับในช่วงแรกถือว่าดีกว่าที่คาดไว้มาก โดยบริษัทคาดว่าสิ้นปีนี้จะ Breakeven ได้ และผลกระทบในเชิง P&L ของ ONEE ในช่วงแรกนั้นถือว่าจำกัด
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น ONEE ปรับลดลง 11.7%MoM อยู่ที่ระดับ 4.90 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 2.8%MoM ที่ระดับ 1,517.92 จุด
ความเห็นและกลยุทธ์การลงทุน:
สิ่งที่นักลงทุนกังวลหลักๆ คือเรื่องการฟื้นตัวของ TV Adex ใน 2H66 จากความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 18% ใน 1 เดือน และซื้อขายอยู่ที่ระดับใกล้เคียง -2SD ในเชิงของ PE ทำให้ Downside ค่อนข้างที่จะจำกัด
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน คงคำแนะนำ ‘ซื้อ’ โดยแนะนำให้นักลงทุนใช้จังหวะที่เริ่มเห็นความชัดเจนด้านการเมืองในการเข้าซื้อสะสมอีกครั้ง โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 5.6-6.3 บาทต่อหุ้น อิง 24.6x-27.5x PE ปี 2566 หรือ -1SD ถึง -0.5SD
ส่วนความเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือความไม่แน่นอนด้านการเมืองซึ่งจะกระทบการฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณาทีวี