ถึงเวลาที่ต้องยอมรับว่า เราไม่สามารถเรียกคืนโลกใบเดิมให้กลับมาได้อีกแล้ว อาจทำได้เพียงช่วยกันลดความรุนแรงจากภาวะโลกร้อนที่จะเกิดขึ้นกับคนรุ่นหลังให้น้อยลงกว่าคนรุ่นเรา
เมื่อนักวิชาการใน Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) หรือคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภายใต้การทำงานขององค์การสหประชาชาติ (UN) ออกมาเตือนว่า ถ้าอุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นเกินค่าเฉลี่ย 1.5 องศาเซลเซียส คาดการณ์ว่าประชากรราว 3 พันล้านคนทั่วโลกอาจประสบกับภาวะขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค การเพาะปลูกและการประมงทั่วโลกจะลดกำลังการผลิตลง เด็กๆ ในภูมิภาคแอฟริกาอีกราว 1.4 ล้านคนอาจจะประสบกับภาวะขาดสารอาหารอย่างหนัก จนกระทบต่อการเจริญเติบโตที่สมวัย ซึ่งต่อให้ช่วยกันอย่างสุดความสามารถก็ยากที่จะปรับตัวต่อภาวะโลกร้อนได้
แต่ข้อเท็จจริงก็คือ อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นทะลุ 1.5 องศาเซลเซียสอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2015 แล้ว ส่งผลให้โลกร้อนทุบสถิติในรอบ 174 ปี สภาพอากาศทั่วโลกแปรปรวน เกิดลานีญาลากยาว 3 ปี และทั่วโลกกำลังเผชิญกับเอลนีโญครั้งรุนแรงในรอบ 73 ปี
ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสาร Science พบว่า ทะเลสาบและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่กว่าครึ่งหนึ่งของโลกมีระดับน้ำลดลงนับตั้งแต่ช่วงต้นคริสต์ทศวรรษที่ 1990 มีความเป็นไปได้ที่มนุษย์อาจไม่มีน้ำเพียงพอสำหรับทำการเกษตร การผลิตไฟฟ้า และการบริโภค
ถึงแม้ว่าทุกอย่างดูเหมือนจะสายเกินแก้ แต่อย่างที่บอกไปข้างต้น ดีที่สุดในตอนนี้คือ ร่วมมือกันปรับพฤติกรรมและเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยกันลดความรุนแรงให้น้อยที่สุด
นี่คือสิ่งที่องค์กรยักษ์ใหญ่อย่าง ‘โตโยต้า (Toyota)’ ผลักดันมาตลอด ภายใต้วิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็น ‘ผู้นำพาการขับเคลื่อนยุคใหม่ เพื่อเสริมสร้างความสุขของผู้คน และความยั่งยืนของสังคม’ หนึ่งในความยั่งยืนที่ว่าก็คือพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นสร้างสมดุลแห่งความเป็นกลางทางคาร์บอนผ่านการดำเนินงานในทุกกระบวนการตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment) ควบคู่ไปกับการประสานความร่วมมือกับพันธมิตรที่หลากหลาย ในการมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนให้เท่ากับศูนย์ภายในปี 2050 ซึ่งถือเป็นพันธกิจหลักของกลุ่มโตโยต้าทั่วโลก
การจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว โตโยต้าเตรียมความพร้อมในหลากหลายแนวทาง (Multi-Pathway) ตั้งแต่การเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดภายในโรงงาน หรือการนำนวัตกรรม Karakuri กลไกอัจฉริยะสำหรับเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนภายในโรงงานโดยอาศัยหลักกลศาสตร์และแรงโน้มถ่วงของโลก จึงไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้า
รวมไปถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์โดยคำนึงถึงมลภาวะ การร่วมมือกับผู้ผลิตชิ้นส่วนและผู้แทนจำหน่ายในการจัดการระบบขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ตลอดจนมีข้อกำหนดมาตรฐานการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมให้กับคู่ค้าตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการเตรียมความพร้อมของการกำจัดผลิตภัณฑ์เมื่อหมดอายุการใช้งานอย่างถูกวิธี (3R: Rebuilt, Reuse, Recycle) ไปจนถึงลดการใช้พลังงานในสำนักงาน นับตั้งแต่ปี 2015-2021 โตโยต้าสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดกระบวนการผลิตไปได้มากถึง 1 ใน 3
แนวคิดเพื่อสิ่งแวดล้อมยังถูกส่งต่อไปสู่ประชาชนผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ กิจกรรมปลูกป่าภายใต้แนวคิด ‘โตโยต้าเมืองสีเขียว เพื่อธรรมชาติ เพื่อทุกชีวิต’ เป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมและสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม
ปัจจุบันโตโยต้าปลูกป่านิเวศไปแล้วกว่า 1,350,000 ต้น ป่าชายเลน 642,800 ต้น เพิ่มพื้นที่ชายฝั่งและคืนความอุดมสมบูรณ์ให้บางปูร่วม 300 ไร่ ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ราว 19,200 ตันต่อปี
และหนึ่งในกิจกรรมที่โตโยต้ามุ่งมั่นสานต่อแนวคิดด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม ให้ทุกคนช่วยกันลดคาร์บอนและคืนความสมดุลให้กับโลกแบบง่ายๆ แค่ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตประจำวันให้รักษ์โลกกว่าที่เคย ก็คือกิจกรรม ‘ลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า’ ซึ่งได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 แล้ว
‘ลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า’ ปีที่ 3 ตอกย้ำแนวคิด ‘ลดด้วยกัน เปลี่ยนด้วยกัน เพื่อโลกที่ดีกว่า
เพราะทุกการขับเคลื่อนเกิดจากความร่วมมือกันของเราทุกคน โตโยต้าจึงมุ่งมั่นชวนคนไทยมาร่วมกิจกรรมเพื่อลดคาร์บอนไดออกไซด์ใน 5 หมวดหมู่ ได้แก่
- ลดการใช้พลาสติก ได้แก่ การพกถุงผ้า การสั่งเดลิเวอรีแบบไม่รับพลาสติก การใช้ภาชนะส่วนตัว และการรีไซเคิลขวดพลาสติก
- ลดการใช้พลังงานผ่านการลดปริมาณหน่วยไฟฟ้าที่ใช้ในบ้าน
- เดินทางอย่างยั่งยืน เช่น ใช้น้ำมันพลังงานทางเลือก ใช้รถยนต์ไฮบริดหรือรถยนต์ไฟฟ้า เลือกเดิน ปั่นจักรยาน หรือใช้ระบบขนส่งสาธารณะและ Car Pool
- การเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านการปลูกต้นไม้
- บริโภคอย่างยั่งยืนผ่านการรับประทานอาหารให้หมด เพื่อลดการเกิด Food Waste
เชื่อหรือไม่ว่า สองมือของคุณเปลี่ยนโลกได้ แค่เข้าร่วมกิจกรรมผ่าน LINE @LodPlienLok พร้อมรับสิทธิ์ลุ้นของรางวัลมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท และรางวัลพิเศษ อย่างเช่น สิทธิ์ลุ้น Meet & Greet กับศิลปินที่คุณชื่นชอบ งานนี้บอกเลยว่ายิ่งลดเยอะก็ยิ่งมีสิทธิ์ลุ้นเยอะ
ความพิเศษในปีนี้ โตโยต้าขอร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยการปลูกต้นไม้ 1 ต้น ต่อทุกกิจกรรมที่ลดคาร์บอน 1 ครั้ง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยระยะเวลาร่วมกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2566 จนถึงวันที่ 18 สิงหาคม 2566
เพราะโลกเป็นของทุกคน ดังนั้นเราจึงต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ ขอชวนทุกคนมา ‘ลดด้วยกัน เปลี่ยนด้วยกัน เพื่อโลกที่ดีกว่า’
อ้างอิง: