สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency: IEA) ระบุในรายงานตลาดน้ำมันประจำเดือนฉบับล่าสุดที่เผยแพร่ในวันนี้ (13 กรกฎาคม) ว่า IEA ตัดสินใจปรับลดคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกเหลือเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2023 (จากเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในรายงานเดือนก่อน) หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 102.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นการปรับลดครั้งแรกในปีนี้ โดยส่วนใหญ่อ้างถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลง โดยเฉพาะในประเทศที่ร่ำรวย
รายงานยังระบุอีกว่า “ปัญหาเศรษฐกิจมหภาคที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเห็นได้จากการผลิตที่ตกต่ำลงอย่างหนัก ทำให้เราต้องปรับประมาณการการเติบโตในปี 2023 ของเราให้ต่ำลงเป็นครั้งแรกในปีนี้”
พร้อมกล่าวเสริมว่า “อุปสงค์น้ำมันโลกกำลังได้รับแรงกดดันจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ท้าทาย โดยหนึ่งในเหตุผลสำคัญมาจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดอย่างมากในประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา”
เมื่อมองไปข้างหน้า IEA คาดว่าการเติบโตของอุปสงค์ในปีหน้าจะชะลอตัวลงเหลือ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากการฟื้นตัวสูญเสียโมเมนตัมท่ามกลางการใช้มาตรการด้านพลังงานไฟฟ้าและประสิทธิภาพของยานพาหนะที่มากขึ้น
เมื่อเดือนที่แล้ว IEA ระบุว่า อุปสงค์ทั่วโลกจะลดลงจนเกือบจะหยุดชะงักในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และจะถึงจุดสูงสุดก่อนสิ้นทศวรรษนี้ เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านออกจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นไปอย่างรวดเร็ว
รายงานล่าสุดยังเผยแพร่หลังจากรายงานอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในเดือนล่าสุด ซึ่งตัวเลขเหล่านั้นได้เพิ่มความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจกำลังยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีนี้
อ้างอิง: