โวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่ ประจำสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) คนใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อช่วงปลายปี 2022 หวังเปิดสำนักงานย่อยด้านสิทธิมนุษยชนเป็นครั้งแรกในอินเดียและจีน ซึ่งเป็นสองประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลกในขณะนี้
โดยข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติยังระบุอีกว่า OHCHR ภายใต้การนำของเขาจะเดินหน้ากระตุ้นและผลักดันให้เกิดความร่วมมือกันในระดับต่างๆ มากยิ่งขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะที่ซีเรีย, อิหร่าน, อิสราเอล และรัสเซีย
เติร์กยังระบุอีกว่า เราควรประสานความร่วมมือกันให้มากยิ่งขึ้น โดยเชื่อมั่นว่าสิ่งที่สำคัญสำหรับเราในช่วงเวลานี้คือ การเปิดสำนักงานย่อยด้านสิทธิมนุษยชนในอินเดียและจีนเป็นครั้งแรก เนื่องจากประชากรของทั้งสองประเทศนี้รวมกันแล้วมีจำนวนมากกว่า 1 ใน 3 ของประชากรโลกทั้งหมด
เติร์กประกาศจุดยืนและเป้าหมายเชิงรุกดังกล่าว ในช่วงที่ OHCHR กำลังจัดงานการประชุมด้านสิทธิมนุษยชนยาวนานถึง 4 สัปดาห์ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี หลังจากการรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งชี้ว่า ประชาคมโลกในขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ และประเด็นปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนจะต้องได้รับการแก้ไข
ด้านนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนในอินเดียระบุว่า อินเดียควรยินดีกับความพยายามของสหประชาชาติที่จะเข้ามาช่วยเหลือในประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน อีกทั้งยังเป็นโอกาสอันดีที่จะได้จัดตั้งกลไกระหว่างประเทศในกิจการด้านนี้ขึ้นในอินเดีย
โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หน่วยงานอย่าง OHCHR เฝ้าติดตามสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในอินเดียและจีนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ ในเขตมณฑลซินเจียงของจีน รวมถึงอีกหลากหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในอินเดียที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทั้งทางการจีนและอินเดียยังคงให้การปฏิเสธในประเด็นดังกล่าวนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำคัญของ OHCHR ภายใต้การบริหารองค์กรของข้าหลวงใหญ่ชาวออสเตรียคนนี้
ภาพ: Fabrice Coffrini / AFP
อ้างอิง:
- www.aljazeera.com/news/2023/6/20/in-a-first-un-rights-chief-seeks-presence-in-india-and-china
- www.cnbctv18.com/world/un-rights-chief-seeks-to-establish-presence-in-china-and-india-16974271.htm
- www.reuters.com/world/asia-pacific/un-rights-chief-seeks-establish-presence-china-india-2023-06-19/