ภารกิจค้นหาเรือดำน้ำเดินหน้าต่อวันที่ 3 ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ยิน ‘เสียงใต้ทะเล’ หลังทิ้งทุ่นโซนาร์

สำหรับความคืบหน้ากรณีการค้นหาเรือดำน้ำ Titan ซึ่งสูญหายไประหว่างพานักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมซากเรือ Titanic ที่จมอยู่ใต้มหาสมุทรแอตแลนติกที่ระดับความลึก 3,800 เมตร ล่าสุดเครื่องบินของแคนาดาที่ปฏิบัติการค้นหาเรือดำน้ำดังกล่าวสามารถตรวจจับ ‘เสียงบางอย่าง’ ที่อยู่ใต้น้ำได้

แถลงการณ์จากหน่วยยามฝั่งสหรัฐอเมริกา ระบุว่า “เครื่องบิน P-3 ของแคนาดาสามารถตรวจจับเสียงจากใต้น้ำในบริเวณที่กำลังดำเนินการค้นหาได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีการย้ายปฏิบัติการค้นหาด้วยหุ่นยนต์ดำน้ำบังคับระยะไกล (ROV) มายังจุดดังกล่าวเพื่อเสาะหาต้นตอของเสียงนั้น อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการ ROV ยังไม่ได้ให้ผลลัพธ์ในเชิงบวก แต่เจ้าหน้าที่จะเดินหน้าค้นหาต่อไป”

ข้อมูลข้างต้นจึงสรุปได้อย่างคร่าวๆ ว่า เสียงที่ดังขึ้นมานั้นยังไม่แน่ชัดว่าเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือจากลูกเรือทั้ง 5 คนจริงหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการค้นหาต่อไป และมีการส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับผู้เชี่ยวชาญของกองทัพเรือสหรัฐฯ เพื่อทำการวิเคราะห์เรียบร้อยแล้ว

สื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง CNN และ Rolling Stone รายงานโดยอ้างบันทึกภายในของรัฐบาลที่ระบุว่า ทีมค้นหาได้ยินเสียงดัง ‘ปัง’ ทุกๆ 30 นาทีในระหว่างการค้นหาของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ภายหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็มีการทิ้งทุ่นโซนาร์จับเสียงใต้น้ำลงไปเพิ่มในอีก 4 ชั่วโมงต่อมา ซึ่งก็ยังคงได้ยินเสียงดังกล่าวอยู่ แต่ในบันทึกไม่ได้ระบุชี้ชัดว่าเสียงที่ได้ยินนั้นมีขึ้นในช่วงเวลากี่โมงของวันอังคาร (20 มิถุนายน) และดังต่อเนื่องนานกี่ชั่วโมงกันแน่

ด้านกลุ่ม Explorers Club ซึ่งมีผู้โดยสาร 2 คนในเรือดำน้ำที่หายไปเป็นสมาชิกอยู่กล่าวว่า ข้อมูลจากภาคสนามทำให้พวกเขายังคงมีความหวัง เพราะมีแนวโน้มว่าเสียงดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณของสิ่งมีชีวิตที่จุดนั้น

หนังสือพิมพ์ The Guardian รายงานว่า มีความเป็นไปได้ที่เรือดำน้ำดังกล่าวจะสามารถเปิดได้จากภายนอกเท่านั้น ฉะนั้นแล้ว ถึงแม้ว่าเรือดำน้ำจะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำและทีมกู้ภัยพบเจอมัน แต่อันตรายก็ยังคงไม่สิ้นสุด เพราะลูกเรือทั้ง 5 คนยังจำเป็นต้องใช้ออกซิเจนฉุกเฉินเพื่อหายใจต่อไปจนกว่าที่ทีมกู้ภัยจะเปิดเรือได้ โดยปัจจุบัน ลูกเรือ Titan เหลือเวลาอีกราว 30 ชั่วโมงก่อนที่ออกซิเจนจะหมด

นับตั้งแต่ปฏิบัติการค้นหาเปิดฉากขึ้น เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องบินและเรือค้นหาผู้ประสบภัยกินพื้นที่ทางทะเลรวมแล้วกว่า 25,900 ตารางกิโลเมตร จากความร่วมมือของหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ กองทัพเรือสหรัฐฯ หน่วยยามฝั่งแคนาดา และบริษัท OceanGate Expeditions เจ้าของทัวร์ซาก Titanic ดังกล่าว

อนึ่ง เรื่องราวของเรือยักษ์ ‘Titanic’ ตำนานการเดินทางที่โลกไม่มีวันลืมแม้กาลเวลาจะผ่านมากว่าร้อยปี กลับมาเป็นที่สนใจของโลกอีกครั้งในช่วงไม่กี่วันนี้ เมื่อเรือดำน้ำที่พานักท่องเที่ยวดำดิ่งสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อชมซากเรือยักษ์อันเป็นตำนานเกิดหายไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (18 มิถุนายน) ส่งผลให้ทีมกู้ภัยต้องเร่งทำงานแข่งกับเวลา เพราะคาดว่าออกซิเจนของนักท่องเที่ยวและคนบนเรือดังกล่าวเหลืออยู่สำหรับใช้ชีวิตได้อีกเพียงแค่ประมาณถึงวันพฤหัสบดีนี้ (22 มิถุนายน) โดยสื่อต่างประเทศรายงานว่า เรือวิจัย Polar Prince ขาดการติดต่อกับลูกเรือของเรือดำน้ำ Titan หลังจากที่เรือลำดังกล่าวดำดิ่งลงใต้ผิวน้ำเป็นเวลาราว 1 ชั่วโมง 45 นาที

ภาพ: Ocean Gate / Handout / Anadolu Agency via Getty Images

อ้างอิง: