จากกรณีที่ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ไม่สามารถนำส่งงบการเงินประจำปี 2565 ได้ตามระยะเวลาที่กฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกำหนด และส่งผลให้หุ้นกู้จำนวน 5 ชุด มูลค่ารวมประมาณ 9.2 พันล้านบาท เกิด Default Payment (DP)
ขณะที่ผู้ถือหุ้นกู้ STARK หมายเลข STARK239A-STARK249A มูลค่า 2.24 พันล้านบาท ใช้สิทธิเรียกคืนให้ชำระหนี้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยภายใน 30 วัน เสี่ยงทำหุ้นกู้จำนวน 9.2 พันล้านบาทเกิด Cross Default ทั้งก้อน
ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการปลดเครื่องหมายห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว (SP) เพื่อเปิดให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้น STARK ได้เป็นการชั่วคราวระหว่างวันที่ 1-30 มิถุนายน ปรากฏว่าราคาหุ้น STARK หลังจากเปิดการซื้อขายวันนี้ เปิดที่ 0.25 บาท ดิ่งลงเกือบ 90% จากราคาปิดก่อนหน้าที่ 2.38 บาท ก่อนที่ราคาจะไหลลงไปแตะระดับ 0.23 บาทในช่วงแรก
โดยอีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่ต้องติดตามหลังจากนี้คือ กรณีที่ผู้สอบบัญชีตรวจพบธุรกรรมที่อาจเป็นการทุจริตภายในบริษัท STARK ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดในเชิงลึก โดยบริษัทจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อได้รับข้อมูลที่ตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วจากคณะทำงาน แม้ว่าเรื่องนี้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัด ในเบื้องต้นบริษัทได้ดำเนินการแต่งตั้งผู้บริหารและกรรมการตรวจสอบชุดใหม่เข้าบริหารจัดการ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในความโปร่งใสของการตรวจสอบ และปรับปรุงให้ระบบควบคุมภายในรัดกุมยิ่งขึ้น