รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมกระตุ้นให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีผู้บริหารหญิงนั่งในบอร์ดอย่างน้อย 1 คนให้ได้ภายในปี 2025 เพื่อลดความล้าหลังและสร้างความเท่าเทียมทางเพศ
Nikkei Asia รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ปรับโครงสร้างให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาด Prime ของตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ต้องมีผู้บริหารหญิงอย่างน้อย 1 คน เพื่อสร้างความเท่าเทียมทางเพศขององค์กร
“รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายให้ผู้หญิงขึ้นมาเป็นผู้บริหารในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ให้ได้ประมาณ 30% ภายในปี 2030 ซึ่งขณะนี้รัฐบาลจะนำเป้าหมายดังกล่าวเข้าไปรวมกับแนวทางนโยบายเกี่ยวกับความก้าวหน้าของสตรีที่เตรียมเปิดตัวในเดือนมิถุนายนนี้” ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรี กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ตามรายงานของสํานักงานคณะรัฐมนตรี ปัจจุบันบริษัทที่จดทะเบียนใน Prime ที่ไม่มีผู้บริหารหญิงรวมเป็น 18.7% โดยมีเพียง 2.2% เท่านั้นที่มีผู้บริหารหญิงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ซึ่งถือว่ายังน้อยมาก
ยิ่งไปกว่านั้นการมีผู้หญิงเข้ามาช่วยบริหาร ต่างเชื่อมโยงกับนวัตกรรมและประสิทธิภาพทางการเงินที่มากขึ้น จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่า การมีผู้หญิงเป็นผู้นำสามารถช่วยให้องค์กรสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ลึกขึ้น และสร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงานหญิงคนอื่นๆ รวมถึงเพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงาน
จากข้อมูลของ บาโรเนส เบอร์ริดจ์ รัฐมนตรีกระทรวงสตรีในสหราชอาณาจักร บริษัทที่มีผู้บริหารหลากหลายทางเพศทำให้มีแนวโน้มที่จะมีผลกำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ย 25%
หากย้อนไปในปี 2022 ตำแหน่งระดับผู้บริหารที่เป็นผู้หญิงในบริษัทชั้นนําของฝรั่งเศสคิดเป็น 45.2% ตามด้วยสหราชอาณาจักร 40.9% เยอรมนี 37.2% และอเมริกา 31.3%
ทั้งนี้ ในบางประเทศมีกฎหมายหรือกฎการจดทะเบียนที่กําหนดให้ผู้หญิงต้องมีส่วนร่วมอยู่ในห้องประชุม โดยเฉพาะสหราชอาณาจักรที่กําหนดให้บริษัทจดทะเบียนต้องมีผู้หญิงคิดเป็นอย่างน้อย 40% ของสมาชิกคณะกรรมการ
อย่างไรก็ตาม ในหลายๆ ประเทศต่างเริ่มให้ความสำคัญกับการผลักดันให้ผู้หญิงขึ้นมาเป็นผู้บริหารระดับสูง โดยเฉพาะฝรั่งเศส ไอซ์แลนด์ และนอร์เวย์ ที่มีผู้หญิงมากกว่า 40% ในคณะกรรมการบริษัท ขณะญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และเกาหลี ยังล้าหลังอยู่ และผู้หญิงยังมีบทบาทการทำงานน้อยที่สุด
อ้างอิง: