วันนี้ (11 พฤษภาคม) เวลา 11.40 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อ กกต. ในกรณีการถือหุ้นสื่อของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล
โดยเรืองไกรกล่าวว่า วันนี้ตนได้นำข้อบังคับของพรรคก้าวไกลมายื่นเพิ่มเติม และจับประเด็นว่าพิธาจะพ้นจากสมาชิกและหัวหน้าพรรคหรือไม่ เพราะข้อบังคับพรรคก้าวไกลมีการแก้ไขลงในราชกิจจานุเบกษา ปี 2563 ซึ่งข้อบังคับพรรคในข้อ 12, 21, 37 ซึ่งในข้อ 12 ระบุว่าสมาชิกต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ดังนั้นเมื่อระบุเช่นนี้ มาตรา 98 (3) ก็จะทำให้พ้นสมาชิกหรือไม่ และกรรมการบริหารพรรค รวมทั้งหัวหน้าพรรค ก็จะต้องขาดจากความเป็นหัวหน้าพรรคโดยสิ้นสุดเฉพาะตัว รวมถึงคณะกรรมการบริหารพรรคต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ตามข้อบังคับพรรคก้าวไกลข้อที่ 36
เรืองไกรกล่าวอีกว่า ตนได้ตั้งข้อสังเกตให้ กกต. ตรวจสอบในกรณีที่ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เข้าข่ายว่าจะมีลักษณะต้องห้ามเป็น ส.ส. รวมถึงเป็นสมาชิกพรรค และหัวหน้าพรรคไม่ได้ ซึ่งผลที่ตามมาในการสมัครเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 3-7 เมษายนที่ผ่านมา พิธาได้เซ็นรับรองการสมัคร ส.ส. เกือบ 400 เขต และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ดังนั้นจึงขอให้ กกต. ตรวจสอบเพิ่มเติมว่าการยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ขอให้ กกต. ดำเนินกฎหมายต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าพิธามีความผิดจริง และได้ไปเซ็นรับรองการสมัคร ส.ส. ของพรรค ถ้าเป็นเช่นนี้การสมัครนั้นจะเป็นโมฆะใช่หรือไม่ เรืองไกรกล่าวว่า ก็ให้ กกต. ตรวจสอบว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ต้องถอดสมการว่าการเป็นหัวหน้าพรรคพ้นไปหรือยัง เพราะในข้อบังคับเป็นหน้าที่ของนายทะเบียน แล้วพิธาก็ให้สัมภาษณ์ด้วยว่าเรื่องนี้รู้มาตั้งนานแล้ว ซึ่งเรื่องนี้พรรคเคยมาปรึกษาตน แต่ไม่ได้ยกประเด็นนี้มาปรึกษา แต่ถึงอย่างไรตนก็ได้ให้ความรู้เรื่องกฎหมายไป ตนไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เรืองไกรเดินทางมายื่นข้อมูลเพิ่มเติมให้กับ กกต. ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่ ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ถูกทำร้ายร่างกาย
“ผมไม่นิยมความรุนแรง แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอ ซึ่งก็ระมัดระวังตัวอยู่ ผมขอให้กำลังใจศรีสุวรรณในฐานะที่เราใช้สิทธิ และถูกทำร้ายร่างกายเป็นครั้งที่ 2 ผมไม่อยากให้เกิดตัวอย่างเช่นนี้ในสังคม คนที่บอกว่าอยากได้ประชาธิปไตย แต่ใช้คำหยาบ คำลามก ใช้การกระทำที่ส่อว่าฝ่าฝืนกฎหมาย เช่น ที่สถานีตำรวจเมื่อวานนี้ ผมไม่เห็นด้วย ผมอยู่มาทุกม็อบ ผมไม่สนับสนุนเรื่องอย่างนี้ เขาใช้สิทธิแต่ละคนเมื่อถูกดำเนินคดีก็ร้องแรกแหกกระเชอกันไป ก็เอาคำพิพากษา คำฟ้องมาตรวจสิครับ ถ้ามันไม่ผิดคดีอาญามีข้อสงสัย ศาลท่านก็ตัดสินไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่าไปบิด การทำให้สังคมอยู่เย็นเป็นสุข สงบอยู่ด้วยรู้รักสามัคคีต้องเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน ผมฝากไว้แค่นี้” เรืองไกรกล่าว
จากนั้นในเวลา 12.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ทุ่งสองห้องได้ควบคุมตัว ทศพล ธนานนท์โสภณกุล ผู้ที่ทำร้ายร่างกายศรีสุวรรณ จากศูนย์ราชการฯ อาคาร B ไปสอบปากคำกรณีทำร้ายร่างกายที่ สน.ทุ่งสองห้อง โดยทศพลชูนิ้วโป้งสองนิ้ว พร้อมกล่าวว่า ตนสู้ คดีทำร้ายร่างกายไม่ใช่โทษอะไรนักหนา ไม่ใช่โทษฆ่าคนตาย ยินดีถูกดำเนินคดี