ศาลอิหร่านมีคำสั่งให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกา รวมถึงอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา, อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการสหรัฐฯ ต้องจ่ายเงินชดเชยกรณีถูกกลุ่มก่อการร้าย ISIS โจมตีเมื่อปี 2017 หลังได้รับคำร้องจากครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น เมื่อวานที่ผ่านมา (26 เมษายน)
โดยให้เหตุผลว่า สหรัฐฯ เป็นต้นเหตุของการโจมตีดังกล่าว รวมถึงมองว่าหน่วยงานในสังกัดของสหรัฐฯ มีส่วนเกี่ยวข้องและมีบทบาทสำคัญในการผลักดันหรือส่งเสริมการเกิดขึ้นของกลุ่มก่อการร้ายอย่างกลุ่ม ISIS หรือกลุ่ม ISIL
จากเหตุโจมตีในครั้งนั้นทำให้อาคารรัฐสภาอิหร่านในกรุงเตหะราน รวมถึงสุสานของบุคคลสำคัญอย่าง อายะตุลลอฮ์ โคมัยนี อดีตผู้นำสูงสุดของอิหร่านพังเสียหาย มีผู้เสียชีวิตในวันนั้นทั้งหมด 17 คน และได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง
ศาลอิหร่านตัดสินให้รัฐบาล อดีตผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ จ่ายเงินชดเชยความเสียหายทางการเงินเป็นจำนวน 9.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ค่าเสียหายทางศีลธรรมจำนวน 104 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และค่าชดเชยการกระทำความผิดอีก 199 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นเงินชดเชยรวมเกือบ 313 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.07 หมื่นล้านบาท)
เบื้องต้น ทางการสหรัฐฯ เชื่อว่า ไม่มีหน่วยงานหรือบุคคลใดที่อยู่ในรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องตามคำตัดสินของศาลเป็นผู้ถือครองทรัพย์สินใดๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของทางการอิหร่านที่จะสามารถยึดหรืออายัดได้ อีกทั้งศาลอิหร่านไม่ได้ระบุในคำสั่งว่าการชดเชยนั้นจะต้องดำเนินการอย่างไร
โดยทั้งโอบามา, จอร์จ ดับเบิลยู. บุช รวมถึงอดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ล้วนมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการทำสงครามต่อต้านการก่อการร้าย (War on Terror) ในพื้นที่แถบภูมิภาคตะวันออกกลางในช่วงกว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา
ภาพ: Saul Loeb / AFP
อ้างอิง: