จากกรณีที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้า และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ สรยุทธ สุทัศนะจินดา พูดถึงผลกระทบจากรัฐประหารปี 2549 ที่ขณะนั้นเป็นตนเองผู้ช่วยของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ โดยเมื่อคณะเดินทางไปประชุมที่นิวยอร์ก ขณะมีรัฐประหาร ทำให้ไม่สามารถเดินทางมางานศพของบิดาได้ทัน โดยหลังจากบินกลับมานั้นถูกควบคุมด้านการเงินต่างๆ
ต่อมาได้มีการนำคลิปวิดีโอที่พิธาเคยให้สัมภาษณ์กับ หนูแหม่ม-สุริวิภา กุลตังวัฒนา ว่าได้เดินทางโดยเครื่องบินของรัฐบาลไทยที่นั่น ซึ่งกลุ่มคนของรัฐบาลไปประชุมที่นิวยอร์กอยู่ในเครื่องบินลำนั้น 20 คน เป็นข้าราชการประจำ ต้องถูกกักตัว 4-5 ชั่วโมง แม้ว่าจะสาย แต่ก็ยังมางานศพบิดาทัน
อีกทั้งยังมีบุคคลที่อ้างว่าเป็นเพื่อนบิดาของพิธาออกมากล่าวพาดพิงว่าพิธาโกหกว่าพลาดร่วมงานศพของบิดาตนเอง เพราะโดนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) คุมตัวนั้น
ล่าสุดพิธาได้โพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยภาพหลักฐานภาพถ่ายในงานศพของบิดาในคืนสวดพระอภิธรรมวันที่ 2 พร้อมหลักฐานแสดงการเดินทางโดยเครื่องบินมาถึงเมืองไทย โดยระบุว่า
“ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาอธิบายหนึ่งในเหตุการณ์บีบหัวใจผมที่สุดในชีวิต นั่นคือการสูญเสียคุณพ่ออันเป็นที่รักอย่างกะทันหัน โดยที่ไม่ได้มีโอกาสร่ำลากัน ในช่วงการรัฐประหาร 2549
“ต่อประเด็นที่มีความพยายามนำบทสัมภาษณ์ของผมกับคุณสรยุทธเมื่อไม่สัปดาห์ก่อนไปเปรียบเทียบกับบทสัมภาษณ์ของผมกับคุณหนูแหม่ม สุริวิภา เมื่อสิบกว่าปีก่อน ว่าผมให้สัมภาษณ์ 2 ครั้งไม่ตรงกัน”
พิธาระบุว่า ขอยืนยันความจริงโดยรูปภาพ 3 ภาพ เพื่อให้กระจ่างและจะกลับไปมีสมาธิหาเสียงต่อ
รูปที่ 1 แสดงให้เห็นว่างานศพของคุณพ่อนั้นเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-24 กันยายน 2549 ต่อคำถามว่า สรุปแล้วมาทันหรือไม่ทันกันแน่ คำตอบคือ มาทันครึ่ง (วันที่ 22-24) และไม่ทันครึ่ง (วันที่ 18-20) ทั้งการสัมภาษณ์ของคุณสุริวิภากับของคุณสรยุทธจึงไม่มีอะไรขัดแย้งกัน
รูปที่ 2 อ้างอิงถึงข่าวจาก Channel News Asia รายงานว่า วันที่ 21 กันยายน 2549 เครื่องบินรัฐบาลไทยที่กลับสู่ประเทศไทยหลังการรัฐประหาร ลงจอดที่สนามบินกองทัพอากาศ ในช่วงประมาณ 12.40 น. ซึ่งเป็นเครื่องบินลำที่ตนโดยสารมาจากนิวยอร์กและลอนดอน จากรายงานข่าวจะพบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุมตัวและตรวจสอบในเครื่องบินอย่างละเอียด ตนถูกกักตัวอยู่ 5-6 ชั่วโมง กว่ารถบัสจะออกมา กว่าจะมีรถของตนมารับ ก็ถึงบ้านประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ จำได้ว่าถึงบ้านก่อนคุณแม่และน้องที่ใส่ชุดดำกลับมา แล้วเราก็กอดกันเป็นครั้งแรกหลังสูญเสียคุณพ่อ
“ส่วนเรื่องข่าวที่มีบุคคลอ้างว่าเป็นเพื่อนพ่อบอกว่าเห็นผมในงานศพพ่อตั้งแต่วันแรก ซึ่งก็คือวันที่ 18 คงจะเข้าใจผิดนะครับ เป็นไปไม่ได้ครับ จำเป็นน้องชายผมหรือเปล่า เพราะหลักฐานก็ชัดว่าวันนั้นผมยังอยู่ที่อเมริกาอยู่เลยนะครับ”
และรูปที่ 3 คือรูปถ่ายของครอบครัวและตนในงานศพของคุณพ่อ ในวันที่ 22 กันยายน 2549 หลังจากนั้นก็เก็บศพคุณพ่อไว้อีกน่าจะ 100 วันก่อนเผา
“อย่างที่ผมเคยได้พูดในหลายโอกาส เมื่อคุณเข้าสู่การเมือง และโดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งก็จะมีการโจมตีกันมาเรื่อยๆ จากนี้เป็นต้นไป ซึ่งผมก็ทราบดีว่าเป็นปกติของการเมือง ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวอะไร ขอให้ทุกคนมีสมาธิกับการหาเสียง และเดินหน้าแก้ไขปัญหาของประชาชนต่อไปครับ”