เกิดเหตุไฟไหม้โรงพยาบาลในกรุงปักกิ่งของจีนเมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ (18 เมษายน) ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นเป็น 29 ราย นับเป็นเหตุไฟไหม้ที่รุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงของจีนในช่วงอย่างน้อย 20 ปีที่ผ่านมา
ภาพจากโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นวินาทีชีวิต โดยผู้คนส่วนหนึ่งหนีตายด้วยการใช้ผ้าปูที่นอนผูกกันเป็นเชือกโรยตัวไต่กำแพงลงมา เพื่อหนีควันไฟและเปลวเพลิงที่กำลังลุกท่วมอาคารผู้ป่วยของโรงพยาบาลฉางเฟิง เมื่อเวลาประมาณ 12.57 น. ของวานนี้ ขณะที่บางคนเกาะคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศที่อยู่นอกหน้าต่าง เพื่อเอาชีวิตรอด
หลังจากเกิดเหตุประมาณครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมเพลิงได้ โดยระหว่างที่เกิดเพลิงไหม้นั้น เจ้าหน้าที่ได้อพยพผู้ที่ติดอยู่ในอาคาร 7 ชั้นหลายสิบคนด้วยกัน โดยมีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 39 ราย เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บรุนแรง 3 ราย และมีอีก 18 รายอยู่ในอาการสาหัส ทั้งนี้ ในจำนวนผู้เสียชีวิต 29 ราย มี 26 รายที่เป็นผู้ป่วยของโรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่ได้เร่งสืบสวนหาสาเหตุของไฟไหม้ครั้งรุนแรงที่สุดในกรุงปักกิ่งนับตั้งแต่ปี 2002 ซึ่งในปีดังกล่าวเกิดเหตุไฟไหม้ที่อินเทอร์เน็ตคาเฟ่แห่งหนึ่ง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 25 รายด้วยกัน
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า อาคารของโรงพยาบาลอยู่ในระหว่างการปรับปรุง ซึ่งระหว่างการก่อสร้างนั้นได้เกิดประกายไฟขึ้น และไปโดนเข้ากับวัสดุที่ใช้ทาสีที่สามารถติดไฟได้ จนเกิดอุบัติเหตุขึ้นในที่สุด
ขณะที่ในช่วงเช้าวันนี้มีรายงานว่า สำนักรักษาความปลอดภัยสาธารณะของกรุงปักกิ่งได้ประกาศควบคุมตัวผู้ที่มีส่วนต้องรับผิดชอบต่อเหตุไฟไหม้ที่เกิดขึ้นแล้ว 12 รายด้วยกัน ซึ่งรวมถึงผู้อำนวยการของโรงพยาบาลและตัวแทนจากบริษัทที่รับผิดชอบในการปรับปรุงอาคารด้วย
ภายหลังเกิดเหตุ ชาวเน็ตจีนได้โพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเหตุไฟไหม้ดังกล่าวบนแอปพลิเคชัน WeChat กันเป็นจำนวนมาก แต่ปรากฏว่าในช่วงเช้าวันนี้ หลายโพสต์กลับถูกเซ็นเซอร์หรือลบหายออกไปจากโลกออนไลน์ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนชาวจีนเป็นอย่างหนัก
ภาพ: VCG / VCG via Getty Images
อ้างอิง: