การที่ ‘บริการเช่าดีวีดี’ กำลังหดตัวลงและจะไม่สามารถให้บริการที่มีคุณภาพต่อไปได้ กลายเป็นเหตุผลที่ Netflix ตัดสินใจปิดฉากบริการที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจตั้งแต่ 25 ปีก่อน ท่ามกลางการดิ้นรนเพื่อเติบโตอีกครั้ง
“ซองจดหมายสีแดงที่เป็นสัญลักษณ์เหล่านั้นเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนดูรายการและภาพยนตร์ที่บ้าน และปูทางไปสู่การเปลี่ยนเป็นการสตรีม” Ted Sarandos ซีอีโอร่วมของ Netflix กล่าวในบล็อกโพสต์ โดยประกาศว่าบริการดีวีดีได้เข้าสู่ ‘ซีซันสุดท้ายแล้ว’
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สวนทางชาวบ้าน! Netflix หั่นราคาแพ็กเกจลงใน 100 ประเทศ ส่วนใหญ่เป็นภูมิภาคที่มีรายได้น้อย บางแห่งลดลงมากถึง 50%
- จากที่เคยทวีต ‘ความรักคือการแบ่งปันรหัสผ่าน’ แต่ตอนนี้ บ้าน Netflix กำลังจะไม่มีอีกแล้ว เมื่อกฎห้ามใช้บัญชีร่วมกันมีผลแล้วใน 4 ประเทศ
- Netflix ไขก๊อก! Reed Hastings ตัดสินใจก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอ Netflix ท่ามกลางวิกฤตธุรกิจที่รอวันฟื้นตัว
Netflix กล่าวว่าได้จัดส่งแผ่นดีวีดีมากกว่า 5.2 พันล้านแผ่นนับตั้งแต่ซองจดหมายสีแดงชุดแรกถูกจัดส่งในเดือนมีนาคม 1998 ขณะที่ซองสุดท้ายจะถูกจัดส่งในเดือนกันยายนนี้
นี่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงของยักษ์สตรีมมิงที่ต้องการดิ้นรนเพื่อทำให้ธุรกิจกลับมาเติบโตอีกครั้ง ซึ่งในขณะที่ Netflix พยายามเพิ่มจำนวนสมาชิก ก็ได้วางแผนปราบปรามการแบ่งปันรหัสผ่านในบางประเทศ
Netflix เพิ่มสมาชิก 1.75 ล้านรายในไตรมาสแรกของปีนี้ และสิ้นสุดช่วงดังกล่าวด้วยจำนวนลูกค้า 232.5 ล้านราย ซึ่งเป็นการเติบโตที่ช้ากว่าที่เคยเป็นมาทั้งก่อนและระหว่างการระบาดใหญ่
กำไรสุทธิลดลง 18% เป็น 1.31 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ ขณะที่รายรับเพิ่มขึ้น 3.7% เป็น 8.16 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ของ Netflix
Netflix กล่าวว่าการให้ผู้ใช้ Netflix ทุกคนต้องจ่ายเงิน ไม่ว่าจะด้วยการบังคับให้คนที่ใช้บัญชีของคนอื่นสมัครใช้เอง หรือให้เจ้าของบัญชีจ่ายเพิ่มเพื่อแชร์ให้กับคนนอกครัวเรือน อาจเป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่สำคัญ เพราะตอนนี้มีผู้ชม Netflix มากกว่า 100 ล้านคนใช้บัญชีที่ยืมมา
การปราบปรามการแบ่งปันรหัสผ่านคาดว่าจะถูกใช้อย่างกว้างขวางมากขึ้น รวมถึงในสหรัฐอเมริกาภายในเดือนกรกฎาคม ซึ่งนี่เป็นความเคลื่อนไหวที่ช้ากว่าที่นักลงทุนประเมินไว้
สิ่งที่ต้องจับตาคือ ตอนนี้ Netflix และคู่แข่งมุ่งเน้นไปที่การทำกำไรมากกว่าการหาสมาชิก ลูกค้ามีความเข้าใจมากขึ้นและเต็มใจที่จะข้ามไปมาระหว่างแพลตฟอร์มต่างๆ และพวกเขามีตัวเลือกมากขึ้นกว่าที่เคย ตั้งแต่บริการหลักไปจนถึงแพลตฟอร์มเฉพาะกลุ่ม
ต้นปีที่ผ่านมา Netflix ได้ลดราคาในหลายสิบประเทศ ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อแรงกดดันด้านการแข่งขันทั่วโลก และพยายามดึงลูกค้าใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้ของ Netflix ลดลงในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน และลดลงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 6
Spencer Neumann ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Netflix กล่าวว่าการลดราคาดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 5% ของรายได้ และ Netflix เชื่อว่าจะได้รับประโยชน์ระยะยาวจากการดึงดูดลูกค้าด้วยเกมการตลาดดังกล่าว
ภาพ: Justin Sullivan / Getty Images
อ้างอิง: