สภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาได้เผยแพร่ร่างการอภิปรายเกี่ยวกับการกำกับดูแลเหรียญ Stablecoin โดยร่างกฎหมายนี้จะถูกนำเสนอต่อการพิจารณาของคณะกรรมการในวันที่ 19 เมษายน กฎหมายฉบับใหม่เกี่ยวกับ Stablecoin จะมุ่งเน้นไปที่ข้อกำหนดสำหรับบริษัทผู้ออกเหรียญ Stablecoin รวมไปถึงการวิจัยเกี่ยวกับดอลลาร์ดิจิทัล
สหรัฐฯ กำลังสร้างกรอบกฎหมายสำหรับเหรียญ Stablecoin
การล่มสลายของเหรียญ LUNA-UST เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2022 ได้สร้างความเสียหายไปทั่วอุตสาหกรรมคริปโต เป็นผลให้รัฐบาลกลางของสหรัฐฯ เตรียมหารือเกี่ยวกับการควบคุมและกำกับดูแลกฎระเบียบในตลาด Stablecoin โดยทางสภาคองเกรสกำลังเตรียมให้ความชัดเจนเพิ่มเติมเร็วๆ นี้
กฎหมายฉบับใหม่เกี่ยวกับ Stablecoin จะมุ่งเน้นไปที่ข้อกำหนดสำหรับบริษัทผู้ออกเหรียญ Stablecoin รวมไปถึงการวิจัยเกี่ยวกับดอลลาร์ดิจิทัล ในอนาคตบริษัทผู้ออก Stablecoin จะต้องได้รับการอนุมัติตามกฎระเบียบจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหน่วยงานการบริหารเครดิตยูเนียนแห่งชาติ สำนักงานควบคุมเงินตรา และ Federal Deposit Insurance Corp.
การฝ่าฝืนไม่ลงทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่เกี่ยวข้องจะถูกปรับไม่เกิน 1 ล้านดอลลาร์ หรือจำคุก 5 ปี นอกจากนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังมีการแบน Stablecoin แบบอัลกอริทึมเป็นเวลา 2 ปีอีกด้วย
Denelle Dixon ซีอีโอของ Stellar Development Foundation แสดงความเห็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สหรัฐฯ ไม่มีทางเลือก นอกจากต้องควบคุมอุตสาหกรรมภายในสิ้นปีนี้ โดยสหรัฐฯ กำลังจะสูญเสียความได้เปรียบในฐานะศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยี เนื่องจากขาดกรอบการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล
ตลาดเหรียญ Stablecoin สำคัญแค่ไหน
ข้อมูลจาก Coin Metrics แสดงให้เห็นว่า การทำธุรกรรมของ Stablecoin มีมูลค่าถึง 7.4 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2022 โดยเพิ่มขึ้น 19% จากปี 2021 ตลาด Stablecoin ยังมีปริมาณการซื้อขายแซงหน้าบริษัทการชำระเงินยักษ์ใหญ่อย่าง Mastercard และ American Express อีกด้วย
ปัจจุบันมูลค่าสินทรัพย์ตามราคาตลาดของตลาด Stablecoin อยู่ที่ 1.17 แสนล้านดอลลาร์ และมีวอลุ่มการซื้อขายมากถึง 6.63 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อวัน ผู้นำตลาดเหรียญ Stablecoin ได้แก่ USDT ของ Tether และ USDC ของ Circle ซึ่งทั้งสองเหรียญครองส่วนแบ่งตลาดเกิน 75% ของเหรียญ Stablecoin ทั้งหมด
ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ Stablecoin เป็นเหตุผลที่ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลจำเป็นต้องเข้ามาควบคุมมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงที่ซ้ำรอยกับเหตุการณ์ล่มสลายของเหรียญ LUNA-UST เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2022
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ย้อนรอยวิกฤตคริปโต การล่มสลายของ FTX รอบนี้จะสั่นสะเทือนตลาดคริปโตได้เหมือนรอบ Mt.Gox ปี 2014 หรือไม่?
- บิล แอคแมน เริ่มใจอ่อน เผย มองคริปโตในมุมบวกมากขึ้น ถึงขั้นเริ่มเข้าลงทุนบ้างแล้ว
- แม้แต่ ‘จัสติน บีเบอร์’ ยังขาดทุน! ผลงาน NFT จาก Bored Ape Yacht Club ที่ซื้อมาด้วยราคา 46.4 ล้านบาท ตอนนี้หล่นลงเหลือ 2.5 ล้านบาท
อ้างอิง: